Lymphoma

<p>มีสถิติพบว่า <strong>มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)</strong> เป็นมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุดในโลก และยังติดอันดับ 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทยด้วย มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือมะเร็งที่มีต้นกำเนิดมาจากต่อมน้ำเหลือง หรือเนื้อเยื่อน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองของร่างกายนั้นมีหน้าที่ต่อสู้เชื้อโรคโดยการขนส่งน้ำเหลืองไปตามหลอดน้ำเหลืองทั่วร่างกาย ประกอบไปด้วยเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่สร้างสารภูมิคุ้มกัน หรือทำลายเชื้อโรคที่โดยตรง จะพบต่อมน้ำเหลืองได้ทั่วร่างกาย เช่น บริเวณลำคอ รักแร้ เต้านม หรือบริเวณขาหนีบ ฯลฯ</p>
<h4></h4>
<h2><span style="color: #00826a;">มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมี 2 ชนิด</span></h2>
<div>
<ol>
<li>มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin lymphoma (NHL)</li>
<li>มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin disease (HD)</li>
<li>ในประเทศไทยพบชนิด NHL บ่อยที่สุด</li>
</ol>
</div>
<div>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง</span></h2>
</div>
<div>
<ul>
<li><span style="color: #00826a;"><strong><span style="background-color: #ffffff;">อายุ :</span></strong></span> อยู่ในช่วงอายุ 60 – 70 ปี</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>เพศ :</strong></span> เพศชายพบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าเพศหญิง</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>การติดเชื้อ : </strong></span>การติดเชื้อ แบคทีเรีย Helicobacter pylori และ การติดเชื้อไวรัส EBV</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>ภาวะพร่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย :</strong></span> ผู้ป่วย HIV พบอุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>โรคภูมิแพ้ตัวเอง : </strong></span>ผู้ป่วยโรค SLE พบอุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>การสัมผัสสารเคมี : </strong></span>ยาฆ่าแมลงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง</li>
</ul>
</div>
<div>
<h4></h4>
<h2><span style="color: #00826a;">การวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง</span></h2>
</div>
<div>
<div>ในผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังจากแพทย์ซักประวัตและพิจารณาจาก อาชีพลักษณะงาน สิ่งแวดล้อม สิ่งกระตุ้นแล้ว จะทำการตรวจหาดังนี้&#8230;</div>
<ol>
<li>ตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)</li>
<li>ตรวจไขกระดูก เพื่อประเมินว่ามีการกระจายเข้าไปในไขกระดูกหรือไม่</li>
<li>เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)</li>
<li>เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)</li>
<li>การตรวจกระดูก (Bone Scan)</li>
<li>การตรวจ PET Scan</li>
</ol>
<h4></h4>
<h2><span style="color: #00826a;">นี่คืออาการเริ่มต้นของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่พบได้บ่อย</span></h2>
<ul>
<li>การพบก้อนที่บริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น ที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ ฯลฯ</li>
<li>เป็นไข้ หนาวสั่น ไอเรื้อรัง และหายใจไม่สะดวก</li>
<li>มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน</li>
<li>เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ</li>
<li>ต่อมทอนซิลโต</li>
<li>อาการคันทั่วร่างกาย</li>
<li>ปวดศีรษะ (พบในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)</li>
</ul>
<h2><span style="color: #00826a;">ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้</span></h2>
<ul>
<li>อาหาร เช่น ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์ เนย ชีส</li>
<li>การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด ก่อนหรือหลังมีประจำเดือน ขณะมีประจำเดือน</li>
<li>สิ่งแวดล้อม เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม อากาศร้อนจัด</li>
<li>การอดนอน</li>
</ul>
</div>
<div>
<h4></h4>
<h2><span style="color: #00826a;">ระยะของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 4 ระยะดังนี้</span></h2>
</div>
<div>
<ul>
<li><span style="color: #00826a;"><strong><span style="background-color: #ffffff;">ระยะที่ 1 :</span></strong></span><span style="background-color: #ffffff; color: #00826a;"> <span style="color: #000000;">มีรอยโรคที่ต่อมน้ำเหลืองหรือนอกต่อมน้ำเหลืองเพียงบริเวณเดียว</span></span></li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>ระยะที่ 2 :</strong></span><span style="background-color: rgb(255 255 255 / var(--tw-bg-opacity)); color: var(--tw-prose-body); font-family: ui-sans-serif, system-ui, -apple-system, BlinkMacSystemFont, 'Segoe UI', Roboto, 'Helvetica Neue', Arial, 'Noto Sans', sans-serif, 'Apple Color Emoji', 'Segoe UI Emoji', 'Segoe UI Symbol', 'Noto Color Emoji'; font-size: 1rem;"> </span><span style="color: #000000;">มีรอยโรคที่ต่อมน้ำเหลืองหรือนอกต่อมน้ำเหลือง ตั้งแต่ 2 ตำแหน่งขึ้นไป</span></li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>ระยะที่ 3 :</strong></span><span style="background-color: rgb(255 255 255 / var(--tw-bg-opacity)); color: var(--tw-prose-body); font-family: ui-sans-serif, system-ui, -apple-system, BlinkMacSystemFont, 'Segoe UI', Roboto, 'Helvetica Neue', Arial, 'Noto Sans', sans-serif, 'Apple Color Emoji', 'Segoe UI Emoji', 'Segoe UI Symbol', 'Noto Color Emoji'; font-size: 1rem;"> </span><span style="color: #000000;">มีรอยโรคที่ต่อมน้ำเหลืองหรือนอกต่อมน้ำเหลือง ที่อยู่คนละด้านของกระบังลม</span></li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>ระยะที่ 4 :</strong></span> <span style="font-family: ui-sans-serif, system-ui, -apple-system, BlinkMacSystemFont, 'Segoe UI', Roboto, 'Helvetica Neue', Arial, 'Noto Sans', sans-serif, 'Apple Color Emoji', 'Segoe UI Emoji', 'Segoe UI Symbol', 'Noto Color Emoji'; font-size: 1rem; color: #000000;">มีรอยโรคกระจายออกไปเกินตำแหน่งเริ่มต้นที่พบ เช่น บริเวณตับ, ไขกระดูก, หรือปอด</span></li>
</ul>
<div>
<h4></h4>
<h2><span style="background-color: #ffffff; color: #00826a;">การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง</span></h2>
<ol>
<li>การให้ยาปฏิชีวนะใน NHL บางชนิด</li>
<li>การใช้ยาเคมีบำบัด</li>
<li>การรักษาด้วยการฉายรังสี</li>
<li>การรักษาด้วยแอนตี้บอดี้</li>
<li>การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (Stem Cell Transplantation)</li>
</ol>
<h4></h4>
<h2><span style="color: #00826a;">การดูแลตัวเองหลังการรักษา</span></h2>
<ul>
<li>รับประทานอาหารที่สะอาดและทำสุกใหม่ๆ</li>
<li>การออกกำลังกาย ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายเท่าที่ทนได้ ไม่ควรหักโหม</li>
<li>ผิวหนัง ควรอาบน้ำและฟอกสบู่ให้สะอาดโดยเฉพาะบริเวณที่อับชื้น</li>
<li>ควรรักษาความสะอาดในช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ</li>
<li>ควรล้างและดูแลบริเวณทวารหนัก ทำความสะอาดหลังถ่ายทุกครั้ง</li>
<li>การดูแลสุขภาพจิต ควรทำความเข้าใจต่อแผนการรักษากับแพทย์</li>
<li>การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ</li>
</ul>
</div>
</div>


บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล