The Danger of Knee Pain

<p>อาการปวดข้อเข่า คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีอายุมากขึ้น จึงมักปล่อยปละละเลยให้เวลาผ่านไปเป็นปีๆ จนกระทั่งเดินลำบาก เดินไม่ได้  ข้อเข่าเป็นข้อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของเรา มีหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกายและช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวกสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ หากข้อเข่ามีปัญหาหรือมีอาการปวดขึ้นมาจะทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ส่งผลกระทบมากมายต่อคุณภาพชีวิต ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">โรคข้อเข่าเสื่อมและโรคปวดข้อเข่าเกิดจากอะไร</span></h2>
<p>ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อเข่า ปวดขา เกิดจาก “โรคข้อเข่าเสื่อม” มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมสภาพและสึกหรอ กระดูกบริเวณข้อต่อจะเสียดสีกันจนเกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อกระดูก และส่งผลให้ปวดข้อเข่า ปวดขาเวลาเดินหรือปวดขาเวลายืนนานๆ จนทำให้เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้เหมือนปกติ</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมมีดังนี้</span></h2>
<ul>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>อายุ :</strong></span> อายุมากมีโอกาสเป็นมาก เนื่องจากใช้งานข้อเข่าเป็นเวลานาน</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>เพศ :</strong></span> พบว่าเพศหญิงเป็นโรคเข่าเสื่อมมากกว่าเพศชาย 2 เท่า เนื่องจากเพศหญิงมักมีอายุยืนยาวกว่า มีโอกาสใช้งานข้อเข่านานกว่า และเพศหญิงยังมีฮอร์โมนที่ทำให้อ้วนง่ายกว่า ส่งผลให้ข้อเข่าต้องแบกรับน้ำหนักมาก</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>น้ำหนัก :</strong></span> ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีโอกาสข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าผู้มีน้ำหนักตัวน้อย</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>พฤติกรรม :</strong></span> ผู้ที่นั่งยองๆ นั่งคุกเข่า นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งพับเพียบนานๆ พบว่าข้อเข่าจะเสื่อมเร็ว</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>นักกีฬาที่มีการปะทะ :</strong></span> การปะทะกันอย่างรุนแรงที่บริเวณหัวเข่า อาจทำให้หัวเข่าได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็นข้อเข่าเสื่อม</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>อุบัติเหตุ :</strong></span> ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุมีการกระแทกที่ข้อเข่า หรือกระดูกข้อเข่าแตก เอ็นฉีก ทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น</li>
<li><span style="color: #00826a;"><strong>ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก :</strong></span> ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย กล้ามเนื้อข้อเข่าและกระดูกข้อเข่าจะไม่แข็งแรง</li>
<li style="list-style-type: none;"></li>
</ul>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">สัญญาณอันตรายของโรคข้อเข่าเสื่อม</span></h2>
<ul>
<li>เวลาขยับข้อเข่าขึ้นลงจะขยับได้ไม่สุด เนื่องจากปวดข้อ</li>
<li>เวลาขึ้นหรือลงบันได หรืองอเข่ามีเสียงกุบกับ</li>
<li>กินยาแก้ปวดข้อเกิน 3 เดือน แต่อาการไม่ดีขึ้น</li>
<li style="list-style-type: none;"></li>
</ul>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">อาการสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อม</span></h2>
<p>ในระยะแรก จะมีอาการปวดข้อเข่าเล็กน้อย อาจมีข้อฝืดขัด เมื่อขยับอาจมีเสียงดัง จะปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว จะปวดขาเวลาเดิน และจะทุเลาลงเมื่อพัก เมื่อเป็นไปนานๆ อาการปวดจะค่อยๆ รุนแรงขึ้น การเหยียดเข่าหรืองอเข่าจะทำได้ไม่สุด เนื่องจากมีการยึดติดของข้อเข่า มีอาการเข่าหลวมทำให้เดินล้มบ่อย มีเสียงดังกรอบแกรบในเข่า ซึ่งเกิดจากการเสียดสี เข่ามีรูปร่างผิดปกติ โก่งงอผิดรูป อาจโก่งด้านนอกหรือโก่งด้านใน เมื่อพบอาการผิดปกติดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อโดยตรง เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคให้ชัดเจน และรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">การวินิจฉัย โรคข้อเข่าเสื่อม</span></h2>
<p>แพทย์จะประเมินจากประวัติความเจ็บป่วย สังเกตลักษณะการเดิน และตรวจร่างกายดูรูปร่างของเข่า ดูลักษณะกล้ามเนื้อขาและรอบเข่า สังเกตอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน ดูการเคลื่อนไหวของข้อ การงอ การเหยียด และฟังเสียงกรอบแกรบ ร่วมกับการถ่ายภาพเอกซเรย์ CT scan หรือ MRI เป็นต้น</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม</span></h2>
<p>การรักษาโรคเข่าเสื่อมมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ระยะของโรค โดยมีเป้าเหมายเพื่อลดอาการปวดข้อเข่า ชะลอการดำเนินโรค ฟื้นฟูการทำงานของข้อเข่า ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ หรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด วิธีการรักษามีดังนี้</p>
<ul>
<li>การใช้ยาในการรักษา แพทย์จะให้เป็นยารับประทานลดการอักเสบและแก้ปวด ซึ่งหากรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจได้รับอันตรายจากผลข้างเคียงของยา เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร ดังนั้นการใช้ยาควรอยู่ในการดูแลของแพทย์</li>
<li>การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม  ในปัจจุบันผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมมากนิยมการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม โดยการผ่าตัดนำผิวข้อเข่าเดิมที่เสื่อมสภาพออกไปแล้วใส่ผิวข้อใหม่ทดแทน ในขณะผ่าตัด แพทย์จะปรับความตึงหรือหย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า เพื่อให้ขามีรูปร่างปกติ ไม่โก่งผิดรูป และตั้งตำแหน่งการวางผิวข้อเทียมให้ถูกจุด จะทำให้ผู้ป่วยเดินได้ดี และข้อเข่าเทียมจะมีความทนทาน ผู้ป่วยจะหายจากความเจ็บปวดและมีข้อเข่าใหม่ที่ตรง มั่นคง และใช้งานได้ดีกว่าข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น หลังผ่าตัดสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเป็นภาระใคร</li>
<li style="list-style-type: none;"></li>
</ul>
<p>ทั้งนี้แพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับร่วมกับผู้ป่วย โดยคำนึงถึงสุขภาพและความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยรายนั้นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จะสามารถฝึกเดินได้ภายใน 24 ชม.หลังการผ่าตัด และพักฟื้นในโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากการฝึกกายภาพบำบัดไม่นาน ผู้ป่วยก็จะหายเจ็บปวดและกลับมาเดินได้ดีอย่างรวดเร็ว</p>
<p>&nbsp;</p>
<div style="text-align: right;"><span style="color: #00826a;"><strong>ศ. นพ. ธไนนิธย์ โชตนภูติ</strong></span></div>
<div>
<div style="text-align: right;">แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์</div>
<div style="text-align: right;">ศูนย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 1</div>
</div>


อย่าทนกับการปวดข้อเข่า นวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจะทำให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้ดี และมีความสุขได้กว่าที่เคย

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ปวดข้อเข่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล