ไข้เลือดออกอันตราย วัคซีนช่วยได้ลดปัญหา

<p>โรคไข้เลือดออกมีพาหะคือยุงลายที่ออกกัดเพื่อดูดเลือดคนในเวลากลางวัน โดยหากถูกยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัดแล้ว ร่างกายจะเริ่มมีอาการหลังจากนั้นราว 5-8 วัน</p>
<h2></h2>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัส</span></h2>
<p>ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสเด็งกี่  (Dengue Virus) ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่  เด็งกี่-1, เด็งกี่-2, เด็งกี่-3 และเด็งกี่-4 โดยติดต่อมาสู่คนจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อเหล่านี้กัด</p>
<h2></h2>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">โรคไข้เลือดออก มีกี่ระยะ</span></h2>
<p>หากแบ่งตามอาการของโรค ไข้เลือดออกสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้</p>
<ul>
<li style="list-style-type: none;">
<ul>
<li>ระยะไข้สูง เมื่อเริ่มเป็นจะมีไข้สูงถึง 38-40 องศาเซลเซียส อยู่ 2-7 วัน สังเกตได้ว่าจะมีหน้าแดง เบื่ออาหาร และมีอาการซึม บางคนอาจมีจุดเลือดสีแดงๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา</li>
<li>ระยะวิกฤต จะเกิดประมาณวันที่ 3-6 ผู้ป่วยจะมีอาการตับโต รู้สึกเจ็บเมื่อกดโดน ไข้จะเริ่มลดลงแต่ผู้ป่วยจะมีอาการซึม มีเหงื่อออก มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ปวดท้อง อาจมีเลือดออกง่าย เช่น มีเลือดกำเดาไหล อาเจียนมีเลือดปนหรือมีสีดำ บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นความดันโลหิตต่ำ ช็อก และอาจเสียชีวิตได้</li>
<li>ระยะพักฟื้น จะเป็นระยะที่มีการย้อนกลับของพลาสม่าเข้าสู่กระแสเลือด อาการทั่วไปจะดีขึ้น เริ่มอยากอาหารความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรดีขึ้น ปัสสาวะดีขึ้น</li>
</ul>
</li>
</ul>
<h2></h2>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที</span></h2>
<ul>
<li style="list-style-type: none;">
<ul>
<li>มีอาการแย่ลงเมื่อไข้ลดลง หรือไข้ลงแล้วยังเพลีย</li>
<li>เลือดออกผิดปกติ</li>
<li>อาเจียนมาก</li>
<li>ปวดท้องมาก</li>
<li>ซึม ไม่ดื่มน้ำ บางรายอาจกระหายน้ำมาก</li>
<li>มีอาการช็อก กระสับกระส่าย เอะอะโวยวาย หรือร้องกวนมากในเด็กเล็ก</li>
<li>พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น พูดไม่รู้เรื่อง</li>
<li>เพ้อ ตัวเย็น เหงื่อออก มีจุดแดงขึ้นตามตัว</li>
</ul>
</li>
</ul>
<h2></h2>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">ไข้เลือดออก&#8230; ป้องกันได้</span></h2>
<p>เมื่อทราบแล้วว่า ไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะ ดังนั้น การระมัดระวังไว้ไม่ให้ตนเองและเด็กๆ ในบ้านถูกยุงกัด และการทำลายไม่ให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะช่วยลดเหตุของโรคได้ ดังนี้</p>
<ul>
<li style="list-style-type: none;">
<ul>
<li>กำจัดลูกน้ำ และลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน หรือร่วมมือกับชุมชน</li>
<li>เก็บทำลายภาชนะที่มีน้ำขังหรือของเหลือใช้ที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง อาจทำโดยฝังหรือเผา คว่ำภาชนะที่ไม่ได้ใช้เก็บไว้ในที่แห้ง</li>
<li>ใส่น้ำเกลือ น้ำส้มสายชู หรือ ผงซักฟอกลงในน้ำจานรองตู้กับข้าวเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงมาวางไข่</li>
<li>ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก</li>
</ul>
</li>
</ul>
<h2></h2>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก&#8230; ดีต่อเด็กและผู้สูงอายุอย่างไร</span></h2>
<p>วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกเป็นวัคซีนที่ใช้สำหรับป้องกันโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์ 1, 2, 3 และ 4 สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 9 ปีถึงผู้ที่มีอายุ 45 ปี โดยจะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ที่ 0, 6, 12 เดือน หลังจากฉีดครบแล้ว พบว่าสามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 65.6% ลดความรุนแรงของโรคได้ 92.9% และลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ 80.8%</p>
<p>&nbsp;</p>
<p><span style="color: #00826a;"><strong>ทั้งนี้ผู้ปกครองท่านใดที่สนใจอยากให้ลูกน้อยได้รับวัคซีน สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกได้</strong></span></p>


ไข้เลือดออกเป็นโรคที่มีการระบาดในประเทศไทยเกือบทั้งปี แต่จะระบาดมากในฤดูฝนเพราะยุงลายจะขยายพันธุ์ได้ดี เมื่อเด็กๆ เมื่อถูกยุงลายที่เชื้อไวรัสเด็งกี่ (Dengue Virus) กัดจะทำให้เป็นโรคไข้เลือดออกซึ่งสามา

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ไข้เลือดออกอันตราย วัคซีนช่วยได้ลดปัญหา

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล