ลดความเสี่ยงโรคต้อหิน...ด้วยการทำ LPI (Laser Peripheral Iridotomy)

<p><span style="color: #00826a;"><strong>ต้อหิน</strong></span> โรคที่เกิดจากการเสื่อมของขั้วประสาทตา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น&#8230;และเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตาบอด ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดต้อหินมักเกิดจากความดันในลูกตาสูง เนื่องจากการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาผิดปกติ ซึ่งการทำ LPI (Laser Peripheral Iridotomy) คือการยิงแสงเลเซอร์ผ่านขอบม่านตา เพื่อทำให้เกิดรู ช่วยให้น้ำในลูกตาสามารถระบายออกได้ดีขึ้น</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">การทำ LPI ใช้เพื่อรักษาคนไข้กรณีใด</span></h2>
<ol>
<li>เพื่อป้องกันการเกิดต้อหินเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะเกิดในกลุ่มผู้ป่วยที่มีมุมตาแคบหรือช่องตาแคบโดยกำเนิด (เกิดโดยธรรมชาติ) ซึ่งมักสัมพันธ์กับกลุ่มคนไข้สายตายาว</li>
<li>เพื่อรักษาคนไข้ที่มีภาวะต้อหินจากมุมตาแคบ ในกลุ่มที่ไม่สามารถระบายน้ำออกจากลูกตาได้ตามปกติ</li>
</ol>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">หากปล่อยไว้ไม่รักษา&#8230;เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง</span></h2>
<ol>
<li>กลุ่มมุมตาแคบที่มีความเสี่ยงต้อหินเฉียบพลัน มีโอกาสที่จะเกิดภาวะต้อหินเฉียบพลัน &lt;10% และหากไม่รักษษด้วยการทำ LPI เมื่อเป็นต้อหินเฉียบพลัน จะเพิ่มโอกาสสูญเสียการมองเห็นแบบเฉียบพลัน  ≥ 80 %</li>
<li>กลุ่มที่มีภาวะต้อหินจากมุมตาแคบ  หากไม่รักษา จะค่อยๆ สูญเสียการมองเห็น  100 %</li>
</ol>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">ขั้นตอนการทำ LPI</span></h2>
<p><span style="color: #00826a;"><strong>1. หยอดยาหดรูม่านตา (2% Pilocarpine eye drop)</strong></span> ประมาณ 30 -60 นาที เพื่อเตรียมม่านตาก่อนทำเลเซอร์ (ขณะหยอดยาอาจมีอาการปวดศีรษะ/คลื่นไส้ อาเจียน จากผลข้างเคียงของยา กรณีมีอาการปวดศีรษะ และคลื่นไส้อาเจียนมาก กรุณาแจ้งพยาบาล)</p>
<ul>
<li style="list-style-type: none;">
<ul>
<li>หยอดยาชา</li>
<li>นั่งหน้าเครื่องเลเซอร์ วางคางลงบนตำแหน่งที่พักคาง แพทย์วางเลนส์บนกระจกตา (ผู้ป่วยเบิ่งตาให้กว้างและค้างไว้)</li>
<li>แพทย์ยิงแสงเลเซอร์ผ่านไปบนเลนส์  ใช้เวลาประมาณ 1 นาที (อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยในบางราย)</li>
</ul>
</li>
</ul>
<p>2. <span style="color: #00826a;"><strong>หลังทำ</strong></span> แพทย์/เจ้าหน้าที่พยาบาล หยอดยาฆ่าเชื้อ และยาลดการอักเสบ ให้  (จ่ายยาเพิ่มให้ผู้ป่วยไปหยอดต่อเนื่องที่บ้าน 7 วัน)</p>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วย</span></h2>
<p style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;"><strong>ก่อนทำ</strong></span></p>
<ol>
<li>งดยากลุ่มที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID ยาหรืออาหารเสริมที่มี Omega 3 วิตามินอี  ยาสมุนไพร (โสม, เห็ดหลินจือ) ก่อนทำเลเซอร์ 7 วัน เนื่องจากยากลุ่มดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสี่ยงเลือดออกในตาขณะทำเลเซอร์</li>
<li>งดการขับรถมา  เนื่องจากหลังทำตาจะมัว ควรมีเพื่อนมาด้วย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกลับ</li>
</ol>
<p style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;"><strong>หลังทำ</strong></span></p>
<ol>
<li>หลีกเลี่ยงการขับรถและการใช้สายตา (ตาพร่ามัวหลังทำประมาณ 2 วัน)</li>
<li>หยอดยาแก้อักเสบตามแผนการรักษาต่อเนื่อง 7 วัน</li>
<li>งดหรือหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนัก 7 วัน</li>
<li>ใช้ชีวิตประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ  โดนน้ำได้ ทานอาหารได้ตามปกติ</li>
<li>กรณีที่ทานยาละลายลิ่มเลือด (ต้องหยุดก่อนทำเลเซอร์) สามารถรับประทานได้ในวันถัดไปหลังทำ</li>
</ol>
<h2 style="color: #008080;"><span style="color: #00826a;">อาการข้างเคียงที่อาจพบ</span></h2>
<ol>
<li>อาจพบเงาดำลอยไปมาในตา (กรณีคนไข้มีปัญหาน้ำวุ้นลูกตาขุ่นหรือเสื่อมมาก่อน) เนื่องจากการเลเซอร์ไปกวนวุ้นลูกตา แต่กรณีจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก</li>
<li>ปวดตา (มีโอกาสพบได้เล็กน้อย)</li>
</ol>


ต้อหิน โรคที่มีปัจจัยหลักจากความดันในลูกตาสูง และเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตาบอด ซึ่งการทำ LPI จะช่วยให้น้ำในลูกตาสามารถระบายออกได้ดีขึ้น

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ลดความเสี่ยงโรคต้อหิน...ด้วยการทำ LPI (Laser Peripheral Iridotomy)

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล