
โรคไวรัสตับอักเสบเอ คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อทางการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่มีเชื้อปนเปื้อน อาการของโรค ได้แก่ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บชายโครงขวา ตัวเหลือง ตาเหลือง และตับวาย เมื่อติดเชื้อโรคนี้แล้ว มักหายขาดและมีภูมิคุ้มกันต่อโรค ไม่ก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง เหมือนกับโรคไวรัสตับอักเสบบี
วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
ทำมาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ที่ตายแล้ว เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน
ผู้ที่ “ควร” ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
- ผู้ที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค
- เด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงต่อการรับและแพร่กระจายของโรค ได้แก่ ผู้ประกอบอาหาร สถานเลี้ยงเด็ก กองทัพ บุคลากรทางการแพทย์
- นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปแหล่งระบาด เช่น แถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้ แถบทะเลคาริบเบียน เอเชีย (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) แอฟริกา และยุโรปตะวันออก โดยควรฉีดอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนเดินทาง
- ผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง เช่น ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบบี ผู้ที่ติดแอลกอฮอล์
- ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
- ผู้ที่ใช้ยาเสพติด
- ผู้ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ
- ผู้ที่เป็นโรค Hemophilia
ผู้ที่ “ควรงด” รับวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
- เคยมีประวัติแพ้วัคซีนโรคไวรัสตับอักเสบเอในครั้งก่อน หรือแพ้ส่วนผสมต่างๆ ในวัคซีน
- หากมีไข้สูงเจ็บป่วยเฉียบพลัน ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน รอให้หายป่วยก่อนจึงค่อยมารับวัคซีน
- กรณีเป็นหวัดเล็กน้อย ไม่มีไข้ สามารถรับวัคซีนได้
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
- วัคซีนอาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ แต่อย่างไรก็ตามอาการแพ้รุนแรงจากวัคซีนพบได้น้อยมาก
- ปฏิกิริยาที่อาจพบหลังจากฉีด ได้แก่ ไข้ต่ำๆ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดวัคซีน ซึ่งมักหายเองภายใน 1-2 วัน
- อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ถ่ายเหลว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หงุดหงิด ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เยื่อบุตาอักเสบ ไข้สูง
หมายเหตุ :
- ในปัจจุบัน ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้วัคซีนในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ เป็นวัคซีนชนิดเนื้อตาย จึงอาจพิจารณาให้วัคซีนได้ในกรณีที่มีความจำเป็น และคาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ไม่จำเป็นต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน เนื่องจากมีข้อมูลชัดเจนว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เมื่อได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอแล้ว จะมีภูมิตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีมาก
- สำหรับผู้ที่มีอายุ 8-65 ปี สามารถให้วัคซีนรวมป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบีในเข็มเดียวกัน ซึ่งฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 ครั้งที่ 0, 1 และ 6 เดือน
- ในผู้ป่วยกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วย HIV ผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกเลือด สามารถฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอได้ เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดเนื้อตาย
- วัคซีนไม่สามารถป้องกันโรคได้ หากมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเออยู่ในขณะนั้น
- วัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันเชื้ออื่นๆ ที่มีผลต่อตับ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ซี และอี
- หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์
ศูนย์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้ใหญ่และนักเดินทาง
โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
โทร. 02-9447111 ต่อ 1112#