
ประเทศไทยพบการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ตลอดปี โดยพบการระบาดมากที่สุดในฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงมีนาคม ของทุกปี จากรายงานของกลุ่มพัฒนาระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาโรคติดต่อ กองระบาดวิทยา ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 1 ต.ค. 2562 พบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สูงถึง 285,142 ราย และเสียชีวิต 21 ราย การฉีดวัคซีนไวรัสไข้หวัดใหญ่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน จึงเป็นการช่วยลดความรุนแรงและป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานการณ์ไวรัส COVID-19 นี้ได้
ทำไมเราจึงควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
เพราะการฉีดวัคซีนไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดยเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ซึ่งประกอบด้วย สายพันธุ์ เอ 2 สายพันธุ์และสายพันธุ์ บี 2 สายพันธุ์ ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทุกปี เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ คนไทยจึงควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี โดยเฉพาะในช่วง “ก่อนฤดูฝน” ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดสูงสุด
วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2020 แตกต่างจากเดิมอย่างไร
สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2020 มีการเปลี่ยน 2 ใน 4 สายพันธุ์ จากฝั่งซีกโลกเหนือ (Northern Strain) มาเป็นซีกโลกใต้ (Southern Strain) ซึ่งมีความแตกต่างดังนี้
สายพันธุ์ 2019-2020 ซีกโลกเหนือ (Northern ) | สายพันธุ์ 2020 ซีกโลกใต้ (Southern ) |
---|---|
ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Brisbane (H1N1) | ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Brisbane (H1N1) |
ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Kansas (H3N2) | ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ South Australia (H3N2) |
ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Colorado | ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Washington |
ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Phuket | ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Phuket |
รู้ทัน! ไวรัสไข้หวัดใหญ่...เข้าสู่ร่างกายทางไหนได้บ้าง
ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) โดยทั่วไปไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล จำแนกออกเป็น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอ บี และซี โดยพบมากที่สุด คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (H1N1) (H3N2) รองลงมาคือสายพันธุ์บี และซี ไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อผ่านทางการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอ จาม และการสัมผัสมือโดยตรง หรือสัมผัสทางอ้อมผ่านการใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร่วมกับผู้ป่วยแล้วไม่ล้างมือ เมื่อนำมือมาขยี้ตา แคะจมูก ทำให้ได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
อาการแบบนี้อาจไม่ใช่แค่หวัด...แต่เข้าข่าย “ไข้หวัดใหญ่”
อาการของการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มักรุนแรงกว่าไวรัสไข้หวัดธรรมดา โดยจะมีอาการไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย บางครั้งอาจมีอาการหนาวสั่นสะท้านร่วมด้วย ร่วมกับอาการเจ็บคอ ไอ จาม น้ำมูก เสมหะ เหมือนที่พบได้ในไข้หวัดธรรมดา ซึ่งมักจะไม่มีไข้หรือไข้ไม่สูงนัก
ใครบ้าง...ที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้
วัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถให้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป จนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง ได้แก่
- เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
- ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
- หญิงมีครรภ์
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพและโรคประจำตัวได้แก่ โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ โรคไต หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องต่าง ๆ
บุคคลเหล่านี้ “ห้าม” เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่
- ทารกและเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดรุนแรง หรือมีประวัติแพ้ไข่ชนิดรุนแรง (โดยทั่วไป ผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ สามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์)