ช่องคลอดแห้งปัญหาใหญ่ของหญิงวัยทอง

<p>ช่องคลอดที่สุขภาพดีของหญิงวัยเจริญพันธุ์จะมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผนังช่องคลอดเป็นสีชมพูหนาเป็นลอนลูกคลื่นเล็กๆ ตลอดแนว และเยื่อบุผิวช่องคลอดชั้นบนสุด (superficial cell) ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในช่องคลอดจะหนาถึง 15% ส่วนชั้นล่างสุด (basal cell) จะหนาเพียง 5% ของชั้นเยื่อบุผิว</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>สมดุลของระบบนิเวศในช่องคลอดมีความสำคัญมาก ช่องคลอดปกติจะมีจุลินทรีย์หลายชนิดและหลายพันล้านตัว โดยช่องคลอดที่สุขภาพดีจะมีจุลินทรีย์ที่ดีคือ โดเดอร์ไลน์ แลคโตบาซิลไล (Doderlein’s lactobacilli) อยู่ในปริมาณมากถึง 60-80% มากกว่าจุลินทรีย์อื่นๆ ทุกชนิด รวมทั้งจุลินทรีย์ก่อโรค</p>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">ฮอร์โมนเอสโตรเจนสำคัญอย่างไร</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p>ฮอร์โมนเอสโตรเจน นอกจากจะมีผลต่อความแข็งแรงของผนังช่องคลอด ยังมีผลต่อสมดุลของระบบนิเวศในช่องคลอด โดยเฉพาะต่อจำนวนของเยื่อบุผิวชั้นบนสุด เยื่อบุผิวชั้นบนสุดปกติจะอุดมด้วยไกลโคเจนซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์แลคโตบาซิลไล (Lactobacilli) เมื่อไกลโคเจนสมบูรณ์ จุลินทรีย์แลคโตบาซิลไลจะแบ่งตัวได้มากซึ่งสำคัญต่อการสร้างกรดแลคติก (Lactic acid) และเกี่ยวข้องกับการสร้าง ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) รวมถึงการรวมตัวเป็น ไบโอฟิล์ม (biofilm) ทำให้ช่องคลอดของหญิงวัยเจริญพันธุ์มีสภาพเป็นกรด PH=3.8-4.5 ซึ่งเหมาะต่อการเป็นภูมิต้านทานโดยธรรมชาติ จึงมีผลช่วยป้องกันการติดเชื้อจากเชื้อโรคต่างๆ ได้ แต่เมื่อขาดเอสโตรเจนจะไม่มีเซลล์เยื่อบุผิวชั้นบนสุดของช่องคลอด ไม่มีไกลโคเจนซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดี ทำให้แลคโตแบซิลไลค่อยๆ ลดจำนวนลง ส่งผลให้ขาดกรดแลคติก ทำให้ PH ในช่องคลอดหญิงวัยทองเป็นด่างเพิ่มขึ้น PH&gt;4.5 จนถึง PH=6-7</p>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">ปัญหาที่พบตามมาเมื่อขาดฮอร์โมนเอสโตเจน คือ</span></h2>
<ol>
<li>เกิดตกขาวที่มีกลิ่น จากการติดเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคอื่นๆ ที่ชอบด่าง โดยเฉพาะเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ชอบออกซิเจน (anaerobe bacteria) ตกขาวจะมีสี กลิ่นเหมือนอาหารทะเลบูดเน่า</li>
<li>เยื่อบุช่องคลอดบางลง ทำให้แห้ง ระคายเคือง จนถึงแสบในบางราย ทำให้มีข้อจำกัดหรือมีผลต่อการทำกิจกรรมบางอย่างได้</li>
<li>กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อได้ง่าย จากการที่ช่องคลอดเป็นด่างจึงไม่ช่วยป้องกันเชื้อโรค จึงง่ายต่อการลุกลามเข้าสู่ท่อปัสสาวะ</li>
<li>มีปัญหาเจ็บในการมีเพศสัมพันธ์ จากผนังช่องคลอดบางลงตั้งแต่ระดับเยื่อบุผิวตลอดจนไปถึงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ชั้นเยื่อบุผิวด้วย จึงทำให้สูญเสียความแข็งแรง, สารคัดหลั่งน้อยลง และสูญเสียความยืดหยุ่นของช่องคลอด</li>
</ol>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">สาเหตุของช่องคลอดแห้งมีอะไรบ้าง</span></h2>
<ol>
<li>วัยทอง การขาดฮอร์โมนทำให้สมดุลของช่องคลอดเปลี่ยนไป หรือจากถูกตัดรังไข่และไม่ได้ใช้ฮอร์โมนทดแทน</li>
<li>ฮอร์โมนรวนในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ภาวะเครียด พักผ่อนน้อย หรือจากการออกกำลังกายหนักเกินไป</li>
<li>ขาดการมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถช่วยให้ช่องคลอดเสื่อมช้าลง จากการทำให้มีเลือดมาเลี้ยงช่องคลอดมากขึ้น มีการผลัดเซลล์เยื่อบุผิว เพิ่มการสร้างสารคัดหลั่งและเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานและรอบๆ ช่องคลอด</li>
<li>หลังรักษาภาวะติดเชื้ออักเสบในช่องคลอด เยื่อบุผิวต้องใช้เวลาฟื้นฟู</li>
<li>การทานต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน, ยาต้านมะเร็งเต้านม, ยาแก้แพ้ต่างๆ มีผลลดสารคัดหลั่งทั่วร่างกาย และยาปฏิชีวนะมีผลต่อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลไล จึงควรใช้เท่าที่จำเป็น</li>
<li>การสวนล้างช่องคลอด ทำให้เสียสมดุลของระบบนิเวศในช่องคลอด</li>
</ol>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">การรักษาช่องคลอดแห้งแบบเฉพาะเจาะจงที่ได้ผลดี</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p>การรักษา ทำได้โดยการให้ฮอร์โมนทดแทน โดยเฉพาะในรายที่มีอาการวัยทองด้านอื่นๆ ร่วมด้วย ส่วนรายที่มีเพียงปัญหาช่องคลอดแห้งอย่างเดียว ควรใช้เป็นฮอร์โมนเฉพาะที่ ปัจจุบันที่มี คือ Estriol (E3) + Lactobacilli สอดช่องคลอด และการใช้สารให้ความชุ่มชื้นกับช่องคลอด ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก คือ สาร Polycarbophil ที่สามารถซึมเข้าสู่ผนังช่องคลอด เพิ่มความหนานุ่ม ชุ่มชื้น และช่วยปรับสมดุลกรดด่างให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การรักษาเฉพาะเจาะจงโดยรวมได้ผลดีมาก</p>
<h2></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">การดูแลรักษาแบบองค์รวม</span></h2>
<ol>
<li>ดื่มน้ำให้มาก ทำให้เซลล์ร่างกายชุ่มชื้น</li>
<li>ลดความเครียดทั้งทางกายและจิตใจ</li>
<li>มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ และแนะนำเลี่ยงการใช้ถุงยางที่มีสาร nonoxynol-9 เพราะเพิ่มความแห้งในช่องคลอด</li>
<li>ออกกำลังกาย และเพิ่มการบริหารบริเวณเชิงกรานเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดมาหล่อเลี้ยง</li>
<li>ทาน โพรไบโอติกส์ เช่น กิมจิ นัทโตะ เทมเป้ แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา ข้าวหมาก เป็นต้น เพราะสมดุลในทางเดินอาหารมีผลต่อในช่องคลอด เช่นกัน</li>
<li>ทานกลุ่มผัก ผลไม้ โดยเฉพาะที่มีกลุ่มไอโซฟลาโวน เช่น ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือเซเลอรี่ (Celery) แอปเปิล เชอรี่ น้ำมะพร้าวอ่อน เป็นต้น</li>
<li>งดสูบบุหรี่ ซึ่งสำคัญมากต่อสุขภาพโดยรวม</li>
</ol>
<div align="right"></div>
<div align="right"></div>
<div align="right"><span style="color: #00826a;"><strong>พญ.พุธชาต ล้ำเลิศกิตติกุล</strong></span><br />
แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ<br />
สูติ-นรีแพทย์และแพทย์เวชศาสตร์ทางเพศ<br />
ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 3</div>


การรักษาช่องคลอดแห้งทำได้โดยการให้ฮอร์โมนทดแทน โดยเฉพาะในรายที่มีอาการวัยทองด้านอื่นๆ ร่วมด้วย หากมีปัญหาช่องคลอดแห้งอย่างเดียว ควรใช้เป็นฮอร์โมนเฉพาะที่ และการใช้สารให้ความชุ่มชื้นร่วมด้วย

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ช่องคลอดแห้งปัญหาใหญ่ของหญิงวัยทอง

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล