---

หมอดูแลรักษาฟันให้คนไข้ทั่วไป ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ที่มาหาทันตแพทย์ก็มักจะมีความกลัวหรือกังวลใจอยู่ ดังนั้นสิ่งแรกที่หมอทำ คือจะสร้างความมั่นใจและทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายด้วยการพูดคุยก่อนเสมอ เมื่อคนไข้สบายใจเขาก็พร้อมที่จะปรึกษาหรือถามปัญหาต่างๆ หมอจะให้คนไข้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจรักษา หมอคิดว่าการรักษาที่สมบูรณ์แบบจะต้องเหมาะกับคนไข้ในแต่ละราย โดยไม่เป็นการฝืนบังคับ และสิ่งที่หมอคำนึงถึงเสมอคือการรักษาต้องเกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุด

---

ทพ. ชวลิต กาญจนโอภาสวงศ์ จบการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทำหน้าที่ทันตแพทย์มาอย่างยาวนาน คุณหมอได้เล่าถึงประสบการณ์ในการศึกษาและการทำงานว่า. . .

“ตัวหมอเองชอบการทำงานที่ได้สื่อสารกับผู้คน แต่ด้วยว่าเรียนทางสายวิทยาศาสตร์มาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สมัยนั้นคณะหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่น่าจะเหมาะก็มีแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ แต่หมออยากเป็นทันตแพทย์มากกว่า จึงตัดสินใจสอบเข้าคณะนี้ ทุกวันนี้ก็รู้ว่าคิดไม่ผิด เพราะหมอรักในงาน ในการเป็นทันตแพทย์อย่างมาก”

งานทันตแพทย์ที่คุณหมอผสมผสานความรู้และศิลปะเข้าด้วยกัน

คุณหมอชวลิต กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน ถ้าเรามีความสนใจและรู้ขั้นตอนอย่างแจ่มชัดก็ไม่ใช่เรื่องยาก คุณหมอจึงเป็นผู้ที่มีความใฝ่รู้และหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำงานอยู่เสมอ. . .

“ปกติหมอเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และชอบศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมอยู่ตลอด หมอคิดว่างานทันตแพทย์นั้น นอกจากเราจะต้องเก่งทฤษฎี มีวิชา จดจำสิ่งที่เรียนมาได้ และหมั่นฝึกปฏิบัติแล้ว ในเรื่องทักษะมือ คือถ้ามือเราไม่เป็น ไม่ไป ปั้นอะไรไม่เป็นเลย ก็จะไปไม่รอดเช่นกัน ดังนั้นคนที่อยากเรียนหรืออยากเป็นทันตแพทย์ควรจะต้องมีทักษะทางด้านศิลปะที่ดีด้วย ถ้ายังไม่เก่งก็ต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เพราะการรักษาฟันให้คนไข้นั่นเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์กับศิลปะ คือใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ประกอบกัน”

และด้วยคุณหมอชวลิต เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในทางศิลปะ คือเป็นนักวาดภาพสีน้ำมัน จึงมีทักษะในการใช้มือที่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานด้านทันตกรรมมากทีเดียว เพราะว่างานหมอฟันจะเกี่ยวข้องกับมือ ทักษะการใช้มือ อย่างที่กล่าวมา

ทันตแพทย์ที่พร้อมดูแลรักษาฟัน โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ

ด้วยประสบการณ์การรักษาที่ยาวนานของคุณหมอชวลิต ทำให้คุณหมอเป็นที่ชื่นชอบของคนไข้สูงวัย เนื่องจากคนไข้กลุ่มนี้มักจะมีปัญหาในช่องปากและฟันค่อนข้างมากกว่าคนวัยหนุ่มสาว การดูแลรักษาจึงต้องใช้ความละเอียด เบามือ พิถีพิถัน และมีความใจเย็น. . .

“การรักฟันในผู้สูงอายุ จะยึดตามทฤษฎีอย่างเดียวไม่ได้ หมอต้องอาศัยประสบการณ์ในการสื่อสารกับคนไข้ให้เข้าใจและยอมรับ ต้องรู้ใจและดูว่าการรักษาแบบไหนเหมาะกับคนไข้สูงวัย สำหรับคนไข้ชาวจีนที่เข้ามา หมอก็พอจะสื่อสารภาษาจีนได้บ้าง จึงทำให้คนไข้ลดความกังวล มีความผ่อนคลาย ยอมรับและให้ความร่วมมือในการรักษามากขึ้น”

คุณหมอบอกว่า ทันตแพทย์รุ่นคุณหมอนั้น ต้องดูแลรักษาฟันได้ทั้งหมด เพราะหลักสูตรการเรียนนั้นถ้าจบทันตแพทย์ ต้องขูดหินปูนได้ ถอนฟันได้ ต้องทำงานพื้นฐานได้ทุกอย่าง ผ่านการฝึกฝนในหลายๆ ด้าน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คุณหมอภูมิใจ คุณหมอยังมองว่างานของหมอฟันเป็นงานที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งปัจจุบันจะมีการจำแนกการศึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น คนไข้จึงได้รับการดูแลจากท้นตแพทย์ที่เหมาะกับแต่ละปัญหาฟันมากกว่าแต่ก่อน

เทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการรักษาที่มากขึ้น

การรักษาฟันมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปมาก ยกตัวอย่างการรักษารากฟันเทียมที่ให้ประสิทธิผลในการรักษาออกมาดีมาก คือแทบจะ 100% ทำให้คนไข้อยากทำมากขึ้น แต่คุณหมอแนะนำว่า. . .

“เมื่อมีนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ก็อาจทำให้แนวคิดของคนไข้หลายคนเปลี่ยนไป เช่น แม้คุณหมอจะรักษารากฟันแท้ได้อยู่ แต่คนไข้อาจไม่อยากเก็บรากฟันแท้เอาไว้ เพราะอยากใส่รากฟันเทียมให้ถาวรไปเลย ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายก็สูง และโอกาสที่จะทำออกมาแล้วไม่สมบูรณ์แบบก็ยังมี สาเหตุที่คนไข้กลัว ก็เพราะถ้าเก็บรากฟันแท้เอาไว้อาจจะเกิดการแตกหักในอนาคตก็ต้องมีการถอนอีก ซึ่งมันก็จริง แต่ทั้งนี้การรักษาตามสเต็ป หมอก็จะอธิบายข้อดีข้อเสียให้คนไข้เข้าใจ เพื่อการตัดสินใจในแบบที่คนไข้ต้องการจริงๆ”