หมอเองจะยึดหลักคำสอนของพระบิดาเป็นที่ตั้ง นั่นก็คือ ‘ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์’ และด้วยหมอจบแพทย์จากศิริราชมา คณาจารย์จะสอนตลอดว่า ให้นึกถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้เสมอ แม้แต่ที่หมอทำงานในโรงพยาบาลเอกชน มีห้องปฏิบัติการที่ดี มีอุปกรณ์ที่ครบครันและทันสมัยที่สามารถนำมาใช้ตรวจวิเคราะห์หาตัวโรค หาความเสี่ยงได้อย่างดี แต่หมอก็จะพยายามตรวจค้นเพิ่มเติมในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพื่อให้คนไข้ได้รับความคุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องใช้ไป รวมถึงการให้ยาเฉพาะที่จำเป็นด้วย

พญ. นันทพร วงศ์เจริญเกียรติ จบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรอายุรศาสตร์ทั่วไป ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และยังได้ศึกษาเพิ่มพูนความรู้ความสามารถเฉพาะทางอีกชั้นหนึ่ง ในสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจ ณ สถาบันเดิม คุณหมอนันทพร จึงใช้ช่วงเวลาในการศึกษาและฝีกฝนความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ในรั้ว รพ. ศิริราช นานกว่า 11 ปี จึงมาเป็นประจำอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 3 จนปีนี้ (2564) ก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว

ด้วยความไว้วางใจจากคนไข้ 3 กลุ่มโรคหัวใจ

แพทย์อายุกรรมโรคหัวใจและหลอดเลือด จะดูแลรักษาคนไข้แบบองค์รวม คือดูภาพรวมการเจ็บป่วยทั้งด้านร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป การซักประวัติคนไข้โดยละเอียด ตรวจรักษาคนไข้ด้วยความรอบคอบ มีความใส่ใจและให้เวลาคนไข้อย่างเต็มที่ คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของแพทย์ด้านนี้ เพราะทั้งการทำงานของร่างกายและอาการของโรคบางอย่างที่แสดงออกมาอาจมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอยู่ จะต้องหาให้พบ. . .

“ยิ่งเราเป็นอายุรแพทย์หัวใจ คนไข้ที่มาหาเราจะมีอาการหลักๆ คือ เหนื่อย เพลีย หายใจได้ไม่เต็มที่ เจ็บหน้าอก มึนๆ วูบๆ ใจสั่น หรือบางครั้งก็มาโดยอธิบายอาการออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก หมอจึงต้องทำหน้าที่วิเคราะห์ แยกแยะ ว่าสิ่งที่เป็นใช่อาการของโรคจริงๆ หรือไม่ เพราะหลายครั้งอาการที่แสดงออกก็เกิดได้ทั้งจากสภาวะโรคทางกายและสภาวะโรคทางใจ หรืออาจมีทั้งสองส่วนผสมกันก็เป็นได้”

คนไข้ 3 กลุ่มหลัก ที่คุณหมอดูแลรักษา

คนไข้ที่คุณหมอนันทพร ดูแลอยู่ จะมี 3 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มที่หนึ่ง คนไข้ที่เจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจโดยตรง คนไข้อาจจะมาด้วยอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ใจสั่น หน้ามืด เกิดอาการวูบ ซึ่งโรคทางหัวใจเหล่านี้ก็มีอยู่หลายโรค อาทิ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคหัวใจโต เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่สอง คือคนไข้ที่อยู่ในกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงว่าอาจส่งผลต่อสุขภาพหัวใจในอนาคต เช่น เป็นโรคไขมันสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคไทรอยด์ หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัดก็ด้วย

ซึ่งคนไข้ทั้งกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ที่มาพบ คุณหมอก็จะทำการซักประวัติ ซักอาการ ตรวจร่างกาย รวมถึงอาจจะต้องเจาะเลือดไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือส่งตัวไปตรวจวิเคราะห์สภาวะต่างๆ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ตรวจการทำงานของหัวใจด้วยการเดินสายพาน ตรวจอัลตร้าซาวด์หัวใจ ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการฉีดสีสวนหัวใจ เป็นต้น

ส่วนกลุ่มที่สาม จะเป็นคนไข้ที่ยังไม่เคยพบความผิดปกติหรือยังไม่แสดงอาการ ดูเหมือนสุขภาพหัวใจยังปกติดี แข็งแรง ออกกำลังกายได้ดี หรือแม้แต่เป็นนักกีฬา แต่ต้องการตรวจสุขภาพหัวใจ คุณหมอก็จะเลือกโปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมให้กับคนไข้แต่ละราย เพื่อทดสอบสมรรถภาพและการทำงานของหัวใจ เป็นการค้นหาความเสี่ยงที่อาจจะแฝงตัวอยู่ตามความเหมาะสม

เมื่อหัวใจแข็งแรง ก็มีความสุขทุกวันในการทำหน้าที่ดูแลคนไข้

เมื่อคนไข้เข้ามารับการตรวจสุขภาพหัวใจ มาขอคำปรึกษา คุณหมอก็จะทำการตรวจ รักษา หรือให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรม ทั้งการคุมอาหาร การออกกำลังกายในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมกับสุขภาพ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจให้แข็งแรงก่อนที่จะเกิดโรคหัวใจขึ้นมาจริงๆ คือเป็นทั้งการป้องกันและการรู้เท่าทันโรคหัวใจที่อาจเกิดขึ้น. . .

“แต่ละคนก็มีหัวใจเพียงแค่ดวงเดียว เราจึงควรทะนุถนอมและดูแลสุขภาพหัวใจให้ดีที่สุด สำหรับหมอเอง เมื่อเรามีสุขภาพหัวใจที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรง หมอก็พร้อมทำหน้าแพทย์ในทุกๆ วันอย่างมีความสุข และด้วยที่หมอก็เป็นอายุรแพทย์หัวใจ หมอจึงอยากให้คนไข้ทุกคนมีหัวใจที่แข็งแรง หายจากโรคต่างๆ และถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ การที่คนไข้รู้จักวิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงอยู่เสมอนั่นเอง”