หน้าอกหย่อนคล้อย...แก้ได้ด้วยเทคนิค Mastopexy

หน้าอกหย่อนคล้อย...แก้ได้ด้วยเทคนิค Mastopexy

“หน้าอกหย่อนคล้อย” อาจเกิดจากการเสียความยืดหยุ่นของผิวหนังจากการตั้งครรภ์ การให้นมลูก การแกว่งตัวของน้ำหนัก อายุที่เพิ่มขึ้น แรงโน้มถ่วงของโลก หรือหย่อนคล้อยจากพันธุกรรมก็เป็นได้ หลายคนแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยด้วยการใส่ชุดชั้นในดันทรง หรือเลือกเสื้อผ้าปกปิดไว้ แต่สาวๆ ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ เพราะหน้าอกหย่อนคล้อยสามารถแก้ได้ด้วยการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

แก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ด้วยการทำ Mastopexy

เราสามารถแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยด้วยการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้หน้าอกยกตัวและกระชับขึ้น ด้วยการกำจัดผิวหนังส่วนเกิน ทำให้เนื้อเยื่อรอบข้างตึงขึ้น ปรับรูปทรงและพยุงทรงของเต้านมใหม่ โดยนวัตกรรมนี้เรียกว่า “Mastopexy” ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาในผู้ที่มีเต้านมใหญ่เกินไปจนทำให้มีปัญหาสุขภาพเช่น ปวดหลังจากการรับน้ำหนักอกขนาดใหญ่ หรือมีแผลอับชื้นที่เกิดขึ้นที่ใต้ราวนม การรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ที่มีความชำนาญด้านศัลยกรรมเต้านม และรักษาในสถานพยาบาลที่มีความพร้อมและมีความปลอดภัยสูง

 

ผ่าตัดยกกระชับหน้าอกในแบบ Mastopexy

การศัลยกรรมหรือผ่าตัดกระชับหน้าอกในแบบ Mastopexy เป็นการผ่าตัดแก้นมโดยการตัดแต่งผิวหนังเนื้อเยื่อและไขมันส่วนเกินออก ยกระดับหัวนมให้สูงขึ้น แก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ขาดความเต่งตึง รวมถึงแก้ปัญหาคนที่มีหน้าอกใหญ่เกินไป เมื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้ว ก็ไม่ต้องรู้สึกกังวลหรือรู้สึกมีปมด้อยอีกต่อไป เพิ่มความมั่นใจให้สาวๆ ได้แน่นอน ซึ่งคนที่เหมาะกับการผ่าตัดยกกระชับหน้าอกควรจะเป็นผู้หญิงที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ เต้านมเจริญเต็มที่แล้ว สุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ และไม่มีแผนมีลูกในเวลาอันใกล้ เนื่องจากการมีลูกจะส่งผลต่อผลการรักษาของการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
เมื่อตัดสินใจจะเข้ารับการผ่าตัดแล้วมาปรึกษาแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญในการศัลยกรรมเต้านมจะให้คำปรึกษา และให้ผู้ป่วยอธิบายปัญหาและความคาดหวังให้แพทย์ทราบก่อน เพื่อให้แพทย์พิจารณาการวางแผนการผ่าตัด นัดวันและเวลาในการผ่าตัด ซึ่งก่อนการเข้ารับการผ่าตัด ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัว การแพ้ยาและอาหารต่างๆ ด้วย และจะมีการตรวจความพร้อมของร่างกายเช่น เจาะเลือด ตรวจสุขภาพหัวใจ และเอกซเรย์ปอด และอื่นๆ ที่จำเป็น ทั้งนี้ควรงดบุหรี่และแอลกอฮอล์ 5-7 วันก่อนการผ่าตัด รวมถึงงดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

 

หลังผ่าตัดยกกระชับหน้าอกต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ?

แพทย์จะปิดแผลไว้ หรืออาจจะต้องใส่ท่อระบายเลือดไว้ 1-2 วัน หลังจากนั้นควรใส่ยกทรงที่ไม่มีโครง เพื่อความกระชับของแผล อาการต่างๆ จากแผล เช่น รอยฟกช้ำจะจางไปประมาณ 2 สัปดาห์ อาการชาที่หัวนมจะค่อยๆ ดีขึ้น และอาการปวดที่หน้าอกหรือแผลจะค่อยๆ หายไปหลังจากได้ทานยา การผ่าตัดยกกระชับหน้าอกนี้จะพักฟื้นเพียง 5-7 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้

คำแนะนำหลังการผ่าตัดหน้าอก

  • ห้ามให้แผลถูกน้ำ
  • ควรใส่ยกทรงแบบไม่มีโครงไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแยกของแผล
  • ทานยาตามหมอสั่ง
  • ตัดไหม 7-14 วันหลังผ่าตัด
  • ถ้ามีไข้ แผลบวมแดงหรือปวด ควรรีบกลับมาพบแพทย์
  • หลังจากแผลหาย อาจจะพบว่าเต้านมไม่เท่ากัน หรือตำแหน่งของหัวนมไม่เท่ากัน อาจจะต้องรอการปรับตัว 6-12 เดือน หรือสามารถมาให้แพทย์ผ่าตัดแก้ไขในภายหลังได้

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




บทความแนะนำ

ผ่าตัดหูรูดกระเพาะอาหาร…รักษากรดไหลย้อนครบวงจร ที่ รพ.พญาไท 2

พญาไท 2

การผ่าตัดหูรูดกระเพาะอาหาร : การตรวจก่อนการผ่าตัด การประเมินอย่างรอบคอบ และวางแผน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ก้าวอีกขั้น “ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี” จากแผลจิ๋ว สู่ไร้แผล

พญาไท 2

ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องผ่านช่องคลอด ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ไร้รอยแผลผ่าตัด ทำให้การรักษานิ่วในถุงน้ำดีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

โรคเหงื่อออกมือ (Hyperhidrosis) ภาวะที่รักษาได้…อย่าปล่อยให้รบกวนชีวิตประจำวัน

พญาไท 2

โรคเหงื่อออกมือ (Hyperhidrosis) เป็นภาวะที่ต่อมเหงื่อทำงานมากผิดปกติ แม้ไม่ได้ออกแรงหรืออยู่ในที่ร้อน ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านสังคมและการทำงาน ซึ่งสามารถรักษาได้หลายวิธี รวมถึงการผ่าตัดผ่านกล้องที่เห็นผลทันที เจ็บน้อย แผลเล็ก พักฟื้นไว หากคุณมีอาการเหงื่อออกมือรบกวนชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

ไทรอยด์เป็นพิษ...อย่าปล่อยไว้จนรุนแรง อาจเสี่ยงหัวใจวาย!

พญาไท 2

ปล่อยให้ไทรอยด์เป็นพิษเรื้อรังไปนานวัน อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อย่างภาวะหัวใจวาย หรือภาวะช็อก...ที่อันตรายถึงเสียชีวิต