นี่คือ 7 เทคนิคลดความอ้วน...จากคุณหมอนักชะลอวัย

นี่คือ 7 เทคนิคลดความอ้วน...จากคุณหมอนักชะลอวัย

“ได้ยินว่าอะไรช่วยให้ผอมได้เร็ว…เราก็ทำหมดอ่ะ” นี่คือความคิดของคนกำลังลดความอ้วนใช่ไหม? มาฟังเทคนิคที่ใช้ได้จริงแบบไม่อันตราย เพราะมาจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยโดยเฉพาะ รวบรวม 7 เทคนิคนี้…ทำตามด่วน

1. Switch to Blue ใช้จานชามสีฟ้า

มีงานวิจัยพบว่าคนเรามีแนวโน้มจะทานอาหารมากขึ้น เมื่อสีอาหารเป็นสีที่เข้ากันกับภาชนะ เช่น สีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง ดังนั้นการใช้ภาชนะสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่เข้ากันได้น้อยที่สุดกับอาหารแทบทุกประเภท จึงส่งผลให้ลดความอยากอาหารได้นั่นเอง

2. Drinks up ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะที่สุด

เคยมีการทดลองจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ในปี 2015 ว่าผู้ที่ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที ทุกมื้อ เป็นเวลา 3 เดือน สามารถลดน้ำหนักจากวิธีนี้เพียงวิธีเดียวได้ถึง 3-5 กิโลกรัม และมีคำอธิบายเรื่องนี้สองอย่างคือ
หนึ่ง…การดื่มน้ำช่วยทำให้กระเพาะตึงตัว และทำให้หิวน้อยลง
สอง…เมื่อร่างกายเราขาดน้ำ สมองจะสั่งการให้ต่อมหิวทำงาน เพื่อเพิ่มเติมน้ำเข้าสู่ระบบ ทั้งๆ ที่บางที เรายังไม่ทันรู้สึกหิวด้วยซ้ำ ดังนั้นหากเราดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายจะตอบสนองทำให้เรากินอาหารเกินความต้องการ

3. Jot it down จดบันทึกทุกอย่างที่กินใน 1 วัน

การจดเมนูอาหาร ของทานเล่น เครื่องดื่ม หรือสิ่งที่กินทุกอย่าง ในแต่ละวัน ช่วยให้ลดน้ำหนักได้เป็น 2 เท่าของคนที่ไม่จดบันทึก เพราะนั่นจะช่วยให้เราระวังมากขึ้นกับการเลือกทาน และพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริง

4. Weigh Training ลองเล่นเวทดูบ้าง

การเบิร์นอย่างเดียวเพราะคิดว่าจะช่วยสลายไขมันหน้าท้องนั้น อาจไม่เวิร์คอีกต่อไป เพราะการสร้างกล้ามเนื้อนี่ล่ะ ที่จำเป็นพอๆ กัน มีสถิติพบว่าคนที่เล่นเวท 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 10 นาที และทำติดต่อกัน นาน 2 เดือน สามารถลดไขมันหน้าท้องได้เห็นผล นั่นเพราะการเล่นเวทเทรนนิ่งคือการเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ และการเล่นเวทที่หลายคนเข้าใจว่าคือการยกดัมเบลเท่านั้นก็ผิดอีก เพราะการแพลงกิ้ง (Planking) สคอวท (Squat) ง่ายๆ ก็คือเวทเทรนนิ่งที่ให้ผลดีเช่นกัน

5. Visualize craving away จินตนาการถึงอาหารที่อยากกิน

ครั้งต่อไปที่คุณหิว และอยากกินอะไรหวานๆ ขึ้นมา ลองหลับตาและนึกถึงภาพสิ่งที่คุณอยากกินที่สุดตอนนั้น มีการศึกษาจากCarnegie Mellon University พบว่าวิธีนี้จะช่วยให้คุณกินน้อยลงเมื่อถึงเวลากินจริงได้ เขาอธิบายปรากฎการณ์นี้ว่า ช่องว่างระหว่างภาพในจินตนาการ กับประสบการณ์จริงที่ได้ลิ้มรสอร่อยนั้น แคบมากกว่าที่ทุกคนคิด ดังนั้นการจินตนาการถึงอาหารจานโปรดเวลารู้สึกหิว ช่วยทำให้เราลดปริมาณการทานลงได้อย่างได้ผลจริง

6. Turn down the heat อยู่ในที่เย็นๆ เข้าไว้

มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารสมาคมต่อมไร้ท่อในอเมริกาพบว่า คนที่อาศัยในเขตที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 19 องศาเซลเซียส จะตรวจพบว่ามีไขมันบราวน์เพิ่มขึ้น และ Brown Fat นี้มีส่วนอย่างมากในการช่วยเผาผลาญแคลอรีขณะหลับ นั่นแปลว่าการออกกำลังกายในห้องแอร์อย่างฟิตเนส จึงอาจลดน้ำหนักได้ดีกว่าการออกกำลังกายในที่ร้อนจัด แต่การให้ผิวถูกแสงแดดบ้างสักวันละ 5 นาที ก็ยังคงจำเป็นเสมอสำหรับการสังเคราะห์วิตามินดีอยู่นะ

7. ตื่นเช้าสักหน่อย (Wake up early)

ถ้าต้องเลือกระหว่างตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกายก่อนไปทำงาน กับการออกกำลังกายหลังเลิกงาน ให้คุณเลือกออกกำลังกายตอนเช้าเสมอ เพราะเขาวิจัยพบแล้วว่า การออกกำลังกายตอนเช้าส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้ผลดีที่สุด

 

ลดน้ำหนักแล้ว…อายุจะยืนยาว ไม่แก่เร็วด้วยนะ

นอกจากโรคอ้วนจะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากมาย อย่างโรคหัวใจ เบาหวาน หลอดเลือด ในทางเวชศาสตร์ชะลอวัย ยังพบว่าความอ้วนมีส่วนทำให้เซลล์แก่ก่อนวัยด้วย และยังมีงานวิจัย ที่พบว่าโรคอ้วน เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งอีกหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมในวัยหมดประจำเดือน มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งลำไส้ มะเร็งกะเพาะอาหาร ดังนั้น การควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ ในทางเวชศาสตร์ชะลอวัย เขาถือเป็นการป้องกันไม่ให้แก่ ก่อนวัย และยังทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้นอีกด้วย

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




บทความแนะนำ

เช้าไม่ตื่น ง่วงตอนบ่าย ตาสว่างตอนดึก... เสี่ยง ต่อมหมวกไตล้า

พญาไท 3

“เช้าไม่อยากตื่น สายอยากกินของหวาน บ่ายเริ่มง่วง เย็นสดชื่น ยิ่งดึกยิ่งตาสว่าง” หากคุณมีอาการแบบนี้บ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณของภาวะ “ต่อมหมวกไตล้า”

ดูแลสุขภาพตรงจุดยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจ DNA Diet Fitness Pro

พญาไท 3

เพราะพื้นฐานร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน การรู้จักว่าร่างกายของเราเป็นแบบไหนจากระดับ DNA ก็จะช่วยให้ดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สูงวัยสุขใจกับหมอชะลอวัย

พญาไท 3

เมื่อเราอายุมากขึ้นย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดโรคหรืออาการต่างๆ ที่มาจากความเสื่อมของร่างกาย หรือเรียกว่า "วัยทอง" ซึ่งปัจจุบันมีแนวทางการรักษาคนวัยทองที่ทันสมัยกว่าเดิม ปลอดภัยกว่าเดิม ให้ผลลัพธ์ที่ดี

สารต้านอนุมูลอิสระ Antioxidant มีประโยชน์จริงหรือไม่ ?

พญาไท 3

“สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ แอนตี้ออกซิแด้นท์ (Antioxidant) จากสื่อโฆษณากันบ่อยๆ แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระนั้นคืออะไร? มาจากไหน? และมีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่?