“ปวดหัวเรื้อรัง” อาการนี้...คุณหมอบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”

พญาไท ศรีราชา

1 นาที

พฤ. 26/03/2020

แชร์


Loading...
“ปวดหัวเรื้อรัง” อาการนี้...คุณหมอบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”

“ปวดศีรษะ” หรือ “ปวดหัว” เป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางคนปวดๆ หายๆ แต่บางคนก็ปวดต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน หรือเป็นปี ซึ่งเรียกว่า “ปวดหัวเรื้อรัง”

 

ทำไม ? จึงปวดหัวบ่อย

ปกติแล้วอาการปวดหัวสามารถพบได้ทั่วไป บางคนอาจปวดเพียงเล็กน้อย บางคนอาจปวดมาก ซึ่งสาเหตุของการปวดหัวนั้นมีหลายอย่าง เช่น ปวดหัวจากความเครียด ปวดหัวไมเกรน หรือมีความผิดปกติด้านอื่นๆ ในร่างกาย เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองโป่งพอง โพรงจมูกอักเสบ หรือสายตาผิดปกติ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน

 

“ปวดหัวเรื้อรัง” เกิดจากสาเหตุอะไร ?

การปวดหัวเรื้อรัง คือลักษณะการปวดหัวที่มีอาการต่อเนื่องมากกว่า 15 วันต่อเดือน ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งอาจเป็นการปวดหัวธรรมดาที่เกิดจากความเครียด ไมเกรน หรือใช้ยาแก้ปวดไม่ถูกต้องทำให้มีอาการปวดต่อเนื่องจนกลายเป็นอาการปวดหัวแบบเรื้อรัง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นอาการปวดหัวที่นำไปสู่โรคร้ายอื่นๆ ได้เช่นกัน

 

ปวดแบบไหน…ไม่อันตราย

อาการปวดหัวที่เกิดจาก การปวดหัวไมเกรน ปวดหัวจากความเครียด การใช้ความคิด การนั่งทำงานนานๆ แสงสว่างไม่พอ เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการเหล่านี้เป็นอาการปวดหัวที่ไม่ได้เป็นอันตราย แม้ว่าอาการปวดหัวเรื้อรังจะรักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันและทำให้บรรเทาลงได้

 

ปวดเรื้อรังแบบไหน…เสี่ยงอันตราย หรือมีโรคร้าย

เมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหัวแบบรุนแรงมากหรือรุนแรงที่สุดในชีวิตที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมักมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น แขนขาอ่อนแรง ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน การได้ยินลดลง หรือชักเกร็ง กระตุก เดินเซ หรือคอแข็ง หรือมีอาการปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน นั่นอาจเป็นอาการของโรคอื่นที่แอบแฝง เช่น เนื้องอกในสมอง มะเร็งสมอง เส้นเลือดสมองโป่งพอง หรือความดันโลหิตสูง เป็นต้น

 

มีอาการปวดหัวเหล่านี้อย่าชะล่าใจ…รีบมาพบแพทย์ด่วน!

  1. ปวดศีรษะรุนแรงขึ้นแบบทันทีทันใด
  2. ปวดศีรษะพร้อมกับมีไข้และคอแข็งร่วมด้วย
  3. ปวดศีรษะร่วมกับอาการทางระบบประสาทผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรง เดินเซ ปากเบี้ยว เป็นต้น
  4. อาการปวดศีรษะในผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV
  5. ปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ตอบสนองต่อการรักษา

อาการปวดหัวเรื้อรัง…รักษาได้หรือไม่ ?

ในการรักษาอาการปวดหัวเรื้อรังนั้นสามารถแบ่งได้ตามความรุนแรง หากพบว่าปวดหัวเรื้อรังเบื้องต้นแพทย์ก็จะทำการซักประวัติโดยละเอียด ทำการตรวจร่างกายทั่วไปและทางระบบประสาท หากพบว่าอาการปวดดังกล่าวเป็นอาการที่ไม่ก่ออันตรายแพทย์ก็จะให้ยาแก้ปวด คลายกล้ามเนื้อหรือคลายเครียด และแนะนำวิธีการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

 

ในกรณีที่มีความผิดปกติก็จะมีการตรวจเพิ่มเติม ทั้งการตรวจเลือด การตรวจเอ็กซเรย์ ซึ่งมีทั้งเอ็กซเรย์กะโหลกศีรษะแบบธรรมดาเพื่อดูโพรงไซนัส  หรือพิจารณาส่งตรวจด้วยสนามแม่เหล็ก (MRI) ซึ่งจะให้ความละเอียดมากขึ้น

 

MRI การตรวจวินิจฉัยเพื่อหาความผิดปกติของอาการปวดหัว

MRI เป็นนวัตกรรมการตรวจโดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทีมีความปลอดภัยสูงและไม่มีอันตรายต่อร่างกาย ส่วนใหญ่มักใช้ตรวจวินิจฉัยเนื้องอกในสมอง โดยเฉพาะเนื้องอกในสมองและกะโหลกศีรษะบริเวณสมองน้อยและก้านสมอง และยังนำ MRI มาใช้ในการวินิจฉัยความผิดปกติอื่นของสมองได้อีก เช่น ภาวะสมองอักเสบจากสาเหตุต่างๆ โรคปลอกประสาทอักเสบ เพื่อทำการรักษาในขั้นตอนต่อไป

 

อาการแบบไหน…ควรได้รับการตรวจ MRI สมอง!

  1. มีอาการปวดหัว แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง หรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
  2. มีอาการชักหรือหมดสติบ่อยๆ ความจำเสื่อม สับสน คลื่นไส้ อาเจียน
  3. มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายบ้านหมุน เสียการทรงตัว เป็นๆ หายๆ
  4. มีอาการ ปากเบี้ยว หนังตาตก หรือ ลิ้นชาแข็ง

เพราะอาการปวดหัวเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน หากพบความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงที่แฝงอยู่ในร่างกาย ที่หากปล่อยไว้ อาจอันตรายถึงชีวิต!


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...