รักษาหลอดเลือดหัวใจตีบ ขยายด้วยบอลลูน หรือใส่ขดลวด ดีอย่างไร?

พญาไท 2

1 นาที

พ. 25/03/2020

แชร์


Loading...
รักษาหลอดเลือดหัวใจตีบ ขยายด้วยบอลลูน หรือใส่ขดลวด ดีอย่างไร?

เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการหลอดเลือดหัวใจตีบระดับปานกลาง “การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน หรือ ใส่ขดลวด” คือแนวทางการตรวจวินิจฉัยที่แพทย์มักแนะนำ โดยวิธีการทำจะคล้ายกับการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ ในกรณีนี้..สามารถทำต่อเนื่องหลังการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ หรืออาจนัดมาในภายหลังก็ได้

อาการบ่งชี้ที่ควร..ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (Balloon)

  • แน่นหน้าอกรุนแรง เหมือนมีของหนักกดทับ
  • หายใจหอบเหนื่อย เหงื่อท่วม หมดแรง ใจสั่น หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
  • อาจมีอาการปวดร้าว หรือชา ไปที่แขน ไหล่ กราม
  • มีประวัติหรือความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะอ้วน สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย
  • เคยตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจคัดกรองอื่นๆ เช่น กราฟไฟฟ้าหัวใจ คลื่นเสียงสะท้อน กราฟหัวใจขณะเดินสายพานผิดปกติ

ขั้นตอนการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (Balloon)    

  • แพทย์นำสายสวนหัวใจชนิดบอลลูนสอดผ่านเส้นเลือดเข้าไปยังหลอดเลือดหัวใจตำแหน่งที่ตีบ
  • บอลลูนจะถูกขยายให้พองตัวขึ้น โดยขยายตัวแนบไปกับผนังหลอดเลือดและกดทับพลัค (plaque)
  • บอลลูนจะถูกทำให้แฟบลงและสายสวนจะถูกนำออกไปจากหลอดเลือดหัวใจ ทำให้บริเวณด้านในของหลอดเลือดกว้างขึ้นและเลือดไหลไปสู่กล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น

การขยายหลอดเลือดหัวใจ…ด้วยเทคนิคอื่นๆ

การขยายหลอดเลือดหัวใจโดยใส่ขดลวด (Stent)

  • ขดลวดถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นหลอดโลหะทรงกระบอกขนาดเล็ก ซึ่งยึดติดอยู่บนบอลลูนของสายสวนหัวใจ
  • แพทย์สอดสายสวนชนิดขดลวดเข้าไปยังหลอดเลือดหัวใจที่ตีบและขยายบอลลูนให้พองตัวขึ้น
  • ขดลวดขยายตัวขึ้นกดทับผนังหลอดเลือดในขณะที่บอลลูนพองตัวขึ้น
  • เมื่อบอลลูนถูกทำให้แฟบลงและนำออกจากหลอดเลือดแล้ว ขดลวดถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจจะยังคงอยู่ ณ บริเวณดังกล่าวถาวร เพื่อให้หลอดเลือดยังคงเปิดกว้างและทำให้การไหลของเลือดดีขึ้น

กรณีที่หลอดเลือดหัวใจมีไขมันและหินปูนเกาะจำนวนมาก หรือรอยตีบมีความแข็ง แพทย์อาจพิจารณารักษาโดยเทคนิคการกรอหลอดเลือดหัวใจด้วยการใช้ “หัวกรอความถี่สูง (Rotablator)” ซึ่งในกรณีนี้สามารถทำต่อเนื่องหลังจากเสร็จสิ้นการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจได้เลย หรืออาจนัดมาในภายหลังได้เช่นกัน

การขยายหลอดเลือดหัวใจโดยหัวกรอความถี่สูง (Rotablator)

หัวกรอความถี่สูง (Rotablator) มีลักษณะเป็นหัวกรอที่มีเพชรฝังอยู่ หัวกรอดังกล่าวจะหมุนด้วยความเร็วรอบ 140,000-200,000 รอบต่อนาที สิ่งอุดตันจะสลายออกเป็นอนุภาคเล็กๆ ซึ่งมีขนาดเล็กมากพอที่จะไหลเวียนในระบบหลอดเลือดอย่างปลอดภัยก่อนที่จะถูกกำจัดออกจากร่างกาย

ขั้นตอนการทำ

  • แพทย์สอดสายสวนชนิดที่มีปลายเป็นหัวกรอความถี่สูง (Rotablator) เข้าไปยังหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ
  • หัวกรอความถี่สูงจะเข้าไปกรอหินปูนภายในหลอดเลือดหัวใจ
  • แพทย์นำหัวกรอความถี่สูงออกและหินปูนจะสลายเป็นอนุภาคเล็กๆไหลเวียนไปในระบบหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเปิดกว้างมากขึ้นและการไหลของเลือดดีขึ้น

หลังการขยายหลอดเลือดหัวใจ

กรณีสอดสายสวนหัวใจเข้าไปทางข้อมือ

  • บริเวณข้อมือจะถูกกดห้ามเลือดด้วยสายรัดข้อมือเช่นเดียวกับการฉีดสีดูหลอดเลือดหัวใจ

กรณีสอดสายสวนหัวใจเข้าไปทางขาหนีบ

  • แพทย์จะคาท่อนำสายสวนไว้จนกระทั่งยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดหมดฤทธิ์ลง จึงนำท่อนำสายสวนออก
  • บริเวณขาหนีบจะถูกกดแผลห้ามเลือดประมาณ 15-30 นาที เมื่อเลือดหยุดจะปิดแผลด้วยพลาสเตอร์เหนียว  และเพื่อให้แผลไม่มีเลือดออกเพิ่ม ช่วงแรกแผลที่ขาหนีบจะถูกกดและห้ามเลือดด้วยหมอนทราย (หนักประมาณ ½ – 1 กก.)
  • ห้ามงอขาหรือลุกนั่งหรือยืนโดยที่แพทย์ไม่อนุญาต
  • หลังการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและน้ำได้

หากมีอาการเหล่านี้…ควรรีบแจ้งพยาบาล

  • รู้สึกอุ่น หรือมีของเหลวไหลซึม หรือเจ็บแปลบบริเวณที่สอดสายสวนเข้าไป หรือมีรอยจ้ำเขียวสีคล้ำขึ้น บวมขึ้น หรือเป็นวงกว้างขึ้น
  • รู้สึกไม่สบายตัว หรือต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม
  • หลังจากการขยายหลอดเลือดเพื่อให้ได้ผลดีผู้ป่วยควรอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน และยังไม่ควรขับรถกลับด้วยตนเอง

ข้อควรปฏิบัติ…เมื่อกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

  • ดูแลแผลโดยใช้พลาสเตอร์ปิดแผลไว้จนแผลแห้ง ถ้าแผลเปียกให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
  • เริ่มรับประทานยาจนกว่าแพทย์จะบอกให้หยุด
  • ควบคุมปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือด
  • เมื่อแพทย์นัด ควรมาตามนัดเพื่อติดตามอาการและตรวจร่างกาย และหากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์
  • ควรแจ้งแพทย์อื่นๆ ให้ทราบว่าท่านได้รับการฝังขดลวด

 


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...