สุขภาพช่องปากและฟันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ รู้ไหมว่า? ในช่องปากเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียหลายชนิด ถ้าเรากินอาหารแล้วไม่ทำความสะอาดฟันอาจตามมาด้วยปัญหาช่องปากและฟันมากมาย และยิ่งหากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดฟันผุ ส่งผลให้ลุกลามไปจนถึงโพรงประสาท อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งเหลือเพียงแต่เหงือก สุดท้ายก็ต้องหันไปพึ่งการทำ “รากฟันเทียม”

ทำไมต้องทำ “รากฟันเทียม”

รากฟันเทียมคือการใส่ฟันทดแทนฟันเดิมที่สูญเสียไปแบบติดแน่น โดยการฝังรากฟันเทียมคือการผ่าตัดที่นำโลหะผสมหรือโครงฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกรภายใต้เหงือกเพื่อใช้แทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ซึ่งเป็นวิธีการใส่ฟันทดแทนที่ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ มีอายุการใช้งานยาวนาน และให้ความรู้สึกใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุด

ปลอดภัยด้วยวัสดุที่ทางการแพทย์ยอมรับ

วัสดุที่ใช้ในการทำรากฟันเทียมจะเป็นโลหะไททาเนียมเกรดที่ 4 (ชนิดที่ใช้ในทางการแพทย์) ซึ่งมีผลการวิจัยรองรับว่าไม่มีอันตราย และเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแรงคงทน รับแรงบดเคี้ยวและคงรูปได้ดี เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่ได้รับความเชื่อถือทางการแพทย์ว่ามีความปลอดภัยสูง

3 ส่วนสำคัญของรากฟันเทียม

รากเทียม (Fixture) ทำมาจากโลหะไทเทเนียม มีรูปร่างคล้ายรากฟัน จะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร สามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์และยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้โดยไม่ทำให้เกิดการอักเสบ และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
แกนครอบฟัน (Abutment) เป็นส่วนที่ต่อขึ้นมาจากรากเทียม เพื่อรองรับครอบฟัน
ครอบฟัน (Crown) เป็นส่วนที่เป็นตัวฟัน ทำจากโลหะ หรือเซรามิค มีรูปร่างลักษณะเหมือนฟันธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติ

ขั้นตอนในการทำรากฟันเทียม

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อวิเคราะห์การรักษาที่เหมาะสมที่สุด แพทย์จะทำการ X-Ray เพื่อประเมินความหนาของกระดูกขากรรไกร
ขั้นตอนที่ 2 เป็นการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมไททาเนียมลงไปในกระดูก และเย็บปิดแผล เมื่อผ่านไป 14 วันจึงทำการตัดไหมที่เย็บไว้ออก
ขั้นตอนที่ 3 ระยะพักฟื้น หลังเข้ารับการรักษา สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้รวดเร็ว โดยใช้เวลาในการรอให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดี และแข็งแรงพอที่จะใช้งานประมาณ 3-6 เดือน สำหรับฟันบน และ 2-3 เดือนสำหรับฟันล่าง
ขั้นตอนที่ 4 ทำการพิมพ์ปากเพื่อส่งให้ Lab ทำครอบฟัน
ขั้นตอนที่ 5 ทำการใส่ครอบฟันที่ทำมาจากโลหะผสม เซรามิก Porcelain ซึ่งมีรูปร่างลักษณะ และสีใกล้เคียงฟันธรรมชาติโดยยึดติดบนเดือยรองรับครอบฟัน (Abutment) ด้วยซีเมนต์ทางการแพทย์หรือบางกรณีจะยึดด้วยสกูร

ข้อดีของการทำ “รากฟันเทียม”

ช่วยให้ฟันสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องกรอเนื้อฟันข้างเคียง เมื่อเทียบกับการทำสะพานฟัน ที่ต้องเสียเนื้อฟันข้างเคียง
รากเทียมมีการฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร จึงทำให้มีการคงสภาพของกระดูกขากรรไกร เกิดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
ไม่ทำให้กระดูกในบริเวณที่สูญเสียฟัน ยุบบุบไป
สามารถใช้ได้ดี สะดวกและปลอดภัยกว่าฟันปลอมถอดได้

ไม่ดูแลสุขภาพฟัน ระวังต้องทำ “รากฟันเทียม”