นอกจากเชื้อโรคและมลพิษในสิ่งแวดล้อมแล้ว ปัญหาความเสื่อมของร่างกายก็เป็นต้นกำเนิดของโรคมากมาย โดยเฉพาะความเสื่อมของกระดูก และกระดูกไขสันหลัง ที่นอกจากจะเกิดได้ง่ายในกลุ่มผู้สูงอายุแล้ว ยังเกิดได้กับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่แม้จะไม่ได้เสื่อมตามอายุ แต่เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตและร่างกายอย่างไม่ถูกต้อง ตลอดจนกลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกายหนักๆ โดยมักมีสัญญาณเตือนคืออาการเจ็บปวดบริเวณหลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของโรคกลุ่ม “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” นั่นเอง

เมื่อแพทย์วินิจฉัยได้ว่า ผู้ป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ก็จะต้องทำการรักษาตามขั้นตอน แต่หากเป็นมากและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด ในปัจจุบันมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นก็คือ….

Nerve Monitoring ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยการผ่าตัดที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาทที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผ่าตัด และเป็นการผ่าตัดแผลเล็กที่ทำให้ผลลัพธ์ในการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น

การผ่าตัดยิ่งแผลเล็กและมีความละเอียดสูง… ยิ่งต้องอาศัยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ

แม้จะเป็นนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับการผ่าตัดภายในโดยเฉพาะ แต่ประสิทธิภาพในการรักษายังขึ้นอยู่กับทีมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการผ่าตัดไขสันหลังแบบ Nerve Monitoring ที่จำเป็นต้องอาศัยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ตั้งแต่ขั้นตอนวิเคราะห์รอยโรค ออกแบบวิธีรักษา และควบคุมดูแลขั้นตอนการผ่าตัดโดยละเอียด ทีมแพทย์ต้องมีความชำนาญด้านการผ่าตัดอยู่เดิม มีความรู้และทักษะในการใช้อุปกรณ์ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการรักษาเป็นอย่างมาก โดยหลังการผ่าตัด แพทย์จะยังต้องติดตามอาการของคนไข้อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลการรักษาและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

มอนิเตอร์คนไข้แบบ Real Time ผ่านอุปกรณ์นำทางการผ่าตัด

เมื่อรู้ตัวว่าต้องผ่าตัด คนไข้และญาติมักกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การรักษาไขสันด้วยวิธีผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery) นอกจากจะเป็นวิธีรักษาที่มีแผลขนาดเล็กและมีความละเอียดสูงแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยง หรือผลข้างเคียงจากการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อแพทย์ได้อธิบายรายละเอียดและขั้นตอนการผ่าตัดรักษา รวมถึงผลที่คาดว่าจะได้รับแล้ว คนไข้และญาติก็จะรู้สึกมั่นใจได้มากขึ้น

ขั้นตอนการผ่าตัด หลังวิสัญญีแพทย์ให้ยาสลบกับคนไข้ แพทย์จะทำการติดอุปกรณ์ตามร่างกายตรงตำแหน่งของเส้นประสาท พร้อม Nerve Monitoring ช่วยนำทางการผ่าตัดไขสันหลัง ทำหน้าที่สอดส่องให้ความปลอดภัยสำหรับคนไข้ตลอดการผ่าตัด เช่น

ส่งสัญญาณเตือน (Alarm) เมื่อกำลังเข้าใกล้เส้นประสาทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายแบบทันทีทันใด
เช็คความแข็งแรงและการทำงานของระบบประสาททั้งหมดแบบ Real Time
ยืนยันตำแหน่งของโรค (Second Check) ช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดให้น้อยลง

Nerve Monitoring เป็นอุปกรณ์นำทางการผ่าตัดที่ช่วยให้แพทย์เห็นโครงสร้างภายในระบบประสาทได้กว้างขึ้น ใช้เวลาผ่าตัดน้อยลง ตลอดจนผลข้างเคียงที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะระบบช่วยป้องกันที่แพทย์สามารถมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลา Nerve Monitoring จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งที่แพทย์มักนำมาใช้ในการผ่าตัดระบบประสาทสมองร่วมด้วย

คืนชีวิตปกติ..หลังผ่าตัดไขสันหลัง Nerve Monitoring

นอกจากคนไข้จะมีความกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนและผลลัพธ์ของการผ่าตัดแล้ว คนไข้ก็อยากกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ไม่ต้องทนเจ็บปวดอีกต่อไป ซึ่งการผ่าตัดรักษาไขสันหลังโดยใช้ Nerve Monitoring จะช่วยลดความกังวลถึงผลการรักษาและอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เพราะเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ตอบสนองผลการรักษาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ดังนี้

ช่วยกำหนดขอบเขตการผ่าตัดของแพทย์ให้รู้กายวิภาคของคนไข้ได้มากขึ้น
ลดภาวะแทรกซ้อน เพิ่มความสำเร็จการผ่าตัดได้มากกว่าวิธีผ่าตัดทั่วไป
เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จของการผ่าตัดสูงขึ้น

การรักษาไขสันหลังแบบ Nerve Monitoring นับเป็นวิธีรักษาที่ใช้กับคนไข้ได้ในหลายโรค เพราะมีข้อจำกัดน้อยและช่วยรักษาอาการปวดอย่างตรงจุดและแม่นยำขึ้น ทั้งยังเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับมากในต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ทุกการผ่าตัดจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้ชำนาญการวิเคราะห์อาการโดยละเอียดก่อน เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและประโยชน์ที่คนไข้จะได้รับเป็นสำคัญ

นวัตกรรมนำทางการผ่าตัด รักษาไขสันหลัง ‘Nerve Monitoring’