หลอดเลือดหัวใจตีบตัน รักษาได้ด้วยการบายพาสหัวใจ

พญาไท 2

1 นาที

จ. 10/05/2021

แชร์


Loading...
หลอดเลือดหัวใจตีบตัน รักษาได้ด้วยการบายพาสหัวใจ

จากสถิติในปี 2558 พบว่าโรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย รองมาจากมะเร็งและอุบัติเหตุ ซึ่งโรคหัวใจนั้นเป็นเพียงชื่อเรียกของกลุ่มโรคที่มีความผิดปกติมาจากองค์ประกอบของหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งโรคหัวใจที่คนไทยเป็นกันมากที่สุด คือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ!!

เจ็บแน่นหน้าอกแบบไหน คือสัญญาณเตือน “หลอดเลือดหัวใจตีบ”

อาการที่พบได้จากโรคนี้ คือ เจ็บแน่นหน้าอกร้าวไปไหล่ซ้ายและแขนซ้าย บางรายอาจร้าวขึ้นไปตามคอ อาการจะเป็นมากขึ้นเมื่อออกแรง แต่เมื่อนั่งพักจะดีขึ้น ในรายที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบมากจนตัน จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรงจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย ซึ่งจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้

ในคนไข้บางคน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน อาจจะไม่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก แต่จะมีอาการหัวใจวาย เช่น เหนื่อยหอบง่าย บางรายอาจมาโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจหยุดเต้นก็เป็นได้

การผ่าตัดรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำได้ใน 3 วิธี คือ

  • การผ่าตัดบายพาสหัวใจแบบใช้เครื่องปอดและหัวใจเทียม (Traditional Coronary Artery Bypass Grafting) คือ การผ่าตัดใหญ่ที่ต้องเปิดช่องอก ต้องใช้ยาเพื่อหยุดการเต้นของหัวใจ และใช้อุปกรณ์พิเศษช่วย เพื่อให้เลือดยังสามารถไหลเวียนไปทั่วร่างกายโดยไม่ผ่านหัวใจ จนกว่าการผ่าตัดจะเสร็จสิ้น การรักษาด้วยวิธีการนี้ใช้มากว่า 30 ปี และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
  • การผ่าตัดบายพาสหัวใจโดยไม่ใช้เครื่องปอดและหัวใจเทียม (Off-Pump Coronary Artery Bypass Grafting) วิธีการผ่าตัดบายพาสแบบนี้จะเปิดช่องอกคล้ายกับวิธีแรก แต่แพทย์จะไม่ใช้ยาเพื่อหยุดการเต้นของหัวใจ และจะไม่ใช้อุปกรณ์พิเศษที่ใช้สูบฉีดเลือด
  • การผ่าตัดบายพาสหัวใจแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive Direct Coronary Artery Bypass Grafting) เป็นการผ่าตัดด้วยอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งจะทำให้แพทย์ไม่ต้องทำการเปิดช่องอก มักนิยมทำในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของหัวใจ วิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจมากกว่า 1 เส้น

ใครบ้างที่ต้องได้รับการผ่าตัด CABG

  • ผู้ที่มีอาการจากการตีบตันของหลอดเลือดโคโรนารีที่ไม่สามารถรักษาทางอื่นได้
  • ผู้ที่มีการตีบตันของหลอดเลือดโคโรนารีเส้นซ้ายใหญ่รุนแรง
  • ผู้ที่มีการตีบของหลอดเลือดหัวใจรุนแรงหลายเส้น โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยบางรายที่จำเป็นต้องป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แม้ไม่มีอาการแต่มีการตีบตันของหลอดเลือดหลักที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจบริเวณกว้าง

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดบายพาสหัวใจ

การผ่าตัดบายพาสหัวใจนับเป็นการผ่าตัดใหญ่ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ดี ซึ่งแพทย์และพยาบาลจะเป็นผู้แนะนำและดูแลความพร้อมให้กับผู้ป่วย แต่ตัวผู้ป่วยเองก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สิ่งที่ควรทำก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่โดยหลักๆ แล้วจะมีดังต่อไปนี้

  • รับประทานอาหารและยาตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • หยุดกิจกรรมบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  • เข้าพักเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายที่โรงพยาบาลก่อนวันผ่าตัด
  • ตรวจความพร้อมก่อนการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์หัวใจและวิสัญญีแพทย์
  • เช็คผลเลือด เตรียมเลือด
  • การหยุดยาต้านเกล็ดเลือด กรณีนี้จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ เพราะในบางกรณีการหยุดยาอาจมีอันตรายทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายก่อนผ่าตัดได้
  • ควรฝากของมีค่า ฟันปลอม แว่นตา หรือของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ไว้กับคนใกล้ชิดหรือพยาบาลก่อนผ่าตัด

การดูแลหลังผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ

คนไข้ควรพักในห้อง CCU ประมาณ 2 วัน เพราะเมื่อออกมาจากห้องผ่าตัดใหม่ๆ คนไข้อาจมีท่อช่วยหายใจอยู่ด้วย เมื่อคนไข้ฟื้นดีแล้วก็จะให้หายใจเองได้โดยพยาบาลจะนำท่อช่วยหายใจออกให้ ต่อเมื่อคนไข้หายใจเองได้ดีจึงจะถูกส่งตัวจากห้อง CCU ไปพักที่ห้องพักที่มีเครื่องติดตามการเต้นของหัวใจ เมื่อคนไข้แข็งแรงขึ้นก็จะสามารถเดินไปห้องน้ำได้เอง แต่ก็จะมีนักกายภาพบำบัดเข้ามาคอยดูแล ช่วยฟื้นฟู โดยปกติแล้วคนไข้จะพักฟื้นที่โรงพยาบาลราว 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด จากนั้นจึงกลับไปพักฟื้นที่บ้าน และมาพบหมอตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการและผลการรักษาต่อไป

 


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...
Loading...