“ไวรัสตับอักเสบซี” ภัยเงียบที่สร้างอันตรายได้มากกว่าที่คิด

ไวรัสตับอักเสบซี…น้อยคนนักที่จะรู้จักกับไวรัสตัวร้ายชนิดนี้ ทั้งที่ในประเทศไทยมีการพบผู้ป่วยถึงร้อยละ 1-2 ของประชากร..และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น!! โดยไวรัสชนิดนี้จะมีขนาดเล็กมาก แม้ใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนก็ยังไม่สามารถมองเห็นได้ และเมื่อติดเชื้อไวรัสนี้แล้ว..ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการใดๆ กว่าจะเริ่มรับรู้ถึงความอ่อนเพลียที่ผิดปกติ ผู้ป่วยก็มักเกิดภาวะตับแข็ง..หรือบางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งตับ!!!

ไวรัสตับอักเสบซี…เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้จากการรับเลือดและส่วนประกอบของเลือด โดยอาจมาจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัก เจาะหู การฝังเข็ม ด้วยเครื่องมือที่ใช้ไม่สะอาดและไม่ได้รับการฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง…จึงเป็นสาเหตุของการติดต่อไวรัสตัวนี้ ดังนั้น ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้..สามารถทานอาหารร่วมกันได้ สามารถมีบุตรและให้นมบุตรได้ตามปกติ

การวินิจฉัยสามารถทำได้โดยการตรวจเลือดแล้วนำส่วนที่เป็นน้ำเหลืองไปตรวจหาภูมิต่อต้านไวรัสตับอักเสบซี หรือที่เรียกว่า “แอนติ เอช ซี วี (Anti-HCV)” รอผลประมาณ 3-7 วัน ในรายที่ผลเป็นบวก…ควรตรวจยืนยันด้วยการตรวจไวรัสโดยตรง

เพราะมีผู้ป่วยเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น…ที่เมื่อเป็นแล้วจะสามารถกำจัดไวรัสออกไปจากร่างหายได้ ในขณะที่ผู้ป่วยร้อยละ 85 จะมีอาการเรื้อรัง ผู้ป่วยจึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจระดับ AST และ ALT ให้ทราบระดับของการอักเสบ แต่ทั้งนี้… เชื้อไวรัสจะมีระดับขึ้นๆ ลงๆ อยู่แล้ว ไม่ได้สัมพันธ์กับความรุนแรงของอาการอักเสบ

นอกจากการพบแพทย์ต่อเนื่องแล้ว…ผู้ป่วยก็สามารถใช้ชีวิตและออกกำลังกายได้ตามปกติ! แต่ต้องให้ความสำคัญกับการพักผ่อนที่เพียงพอ ห้าม!! ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์จะยิ่งทำให้ไวรัสแพร่กระจายตัวได้มากขึ้นและตับเสื่อมเร็ว