ชอบเจ็บแน่นหน้าอก ระวัง! เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
อาการเจ็บแปล๊บๆ หรือเจ็บแน่นบริเวณหน้าอก รู้สึกหนัก อึดอัด…เหมือนถูกบีบรัด แสบร้อนบริเวณหน้าอกร้าวไปไหล่ซ้าย เมื่อหายใจก็ยิ่งรู้สึกหายใจไม่สะดวก อาการเหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นของ “โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” ซึ่งคุณสามารถห่างไกลโรคนี้ได้..ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
การอุดตันเป็นสาเหตุหลักของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
เมื่อไขมันเกาะบริเวณด้านในผนังหลอดเลือดจำนวนมาก..จนทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว! หลอดเลือดแดงที่คอยลำเลียงเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจก็จะเกิดตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ซึ่งการสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานและภาวะไขมันในเลือดสูง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้นกว่าค่าปกติ ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวและเกิดการอุดตันได้
การวินิจฉัยที่ละเอียดและแม่นยำ
ในการวินิจฉัยอาการแน่นหน้าอกนั้น ต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียดและตรวจร่างกาย เพื่อแยกประเภทลักษณะอาการเจ็บที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงการตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอกซเรย์ทรวงอก ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหรือตรวจคลื่นหัวใจขณะเดินสายพานเพิ่มเติม ตลอดจนการทดลองใช้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจ ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อ โดยแพทย์จะต้องเฝ้าดูอาการการตอบสนองของผู้ป่วยกับยาที่ได้รับอย่างใกล้ชิด
วิธีป้องกันให้ห่างไกลจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- งดอาหารหวานจัด เค็มจัด และมีไขมันมาก เมื่อมีไขมันในหลอดเลือดมากจะเกิดการสะสมและก่อให้เกิดแผ่นคราบไขมันตามผนังหลอดเลือด
- รับประทานอาหารที่มีไขมันน้อยจำพวก ปลา ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีใยอาหาร เช่น รำข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี
- หมั่นออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดและขยายปอดได้อย่างเต็มที่
- งดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่จะเข้าไปทำลายผนังบุด้านในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจเกิดการหดตัวและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจก็ลดน้อยลง
- อารมณ์โกรธ ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ตลอดจนการออกแรง ล้วนกระตุ้นให้เกิดอาการได้
- ควบคุมน้ำหนักและรับประทานอาหารที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้ไม่อ้วนแล้ว…ยังช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างปกติ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป
- ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ทันท่วงที เพราะโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้…แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้! หากผู้ป่วยดูแลตัวเองเป็นอย่างดี