หากพูดถึงโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงนั้น ก็คงหนีไม่พ้น “มะเร็งเต้านม” เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่ง ซึ่งเมื่อเป็นแล้วนั้น โอกาสที่จะรักษาให้หายขาดนั้นเป็นไปได้น้อย..หรืออาจจะไม่มีเลย! โดย นพ.อนิรุทธ์ นิรนาท ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา คลินิกเต้านม โรงพยาบาลพญาไท 1 ได้อธิบายถึง สาเหตุของการเกิดมะเร็งในร่างกายคนเราว่า…
แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะสามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและชาย โดยมักเกิดกับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่…และมักเกิดช่วงวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ส่วนในเพศชายนั้นมีอัตราการพบที่ต่ำมากๆ
- อายุมากขึ้น
- มีประวัติคนในครอบครัว เป็นมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งเต้านม จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป เกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น กินยาฮอร์โมนเพศหญิง หรือ ยาคุมกำเนิดต่อเนื่อง
- เป็นผู้ที่ได้รับยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
- ผู้ที่มีประจำเดือนเร็ว ก่อนอายุ 12 ปี และผู้ที่หมดประจำเดือนช้าหลังอายุ 55 ปี
- มีบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปีและ หญิงที่ไม่เคยมีบุตร
- เคยเป็นมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งเต้านมมาก่อน
- การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน ดื่มแอลกอฮอล์
อาการของมะเร็งเต้านมเป็นยังไง?
- ในระยะเริ่มต้นมักไม่เจ็บ
- คลำพบก้อนที่เต้านม หรือรักแร้
- ผิวนมมีรอยย่น บุ๋มไม่เรียบคล้ายเปลือกส้ม
- หัวนมบุ๋ม เกิดการดึงรั้ง
- มีน้ำเหลืองหรือเลือดซึมออกจากหัวนม
มะเร็งเต้านมระยะไหน…ที่อาจรักษาหาย?
- ระยะ 0 เป็นระยะที่มะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลามถึงเนื้อเยื่อ มีอัตรารอด 95-100%
- ระยะ 1 มะเร็งโตขึ้น ลุกลามถึงต่อมน้ำเหลืองรักแร้ด้านเดียวกับโรค มีอัตรารอด 90-100%
- ระยะ 2 มะเร็งโตขึ้นกว่าขั้นที่ 1 ลุกลามถึงต่อมน้ำเหลือง แต่ยังจำนวนน้อย อัตรารอด 85-90%
- ระยะ 3 มะเร็งโตมาก อาจแตกเป็นแผล หรือยึดติดกับกล้ามเนื้อหน้าอก ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองเป็นจำนวนมาก อัตรารอด 65-70%
- ระยะ 4 ระยะสุดท้าย มะเร็งแพร่กระจายเข้ากระแสเลือด สู่อวัยวะอื่นๆ โดยทั่วไปมักอยู่ได้ไม่เกิน 3 ปี มีอัตรารอดที่ 0-20%
แนวทางการรักษามะเร็งเต้านม
- การผ่าตัด
- การผ่าตัดเลาะเฉพาะก้อนมะเร็งออก (Partial Mastectomy)โดยแพทย์จะตัดเฉพาะก้อนมะเร็งออกให้ได้มากที่สุด แต่..ก้อนมะเร็งต้องมีขนาดเล็กและเต้านมมีขนาดใหญ่พอสมควร หากก้อนมะเร็งใหญ่ เต้านมเล็ก หรือเต้านมมีก้อนหลายๆ ก้อน อาจไม่เหมาะกับการผ่าตัดวิธีนี้
- การผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งเต้า (Total Mastectomy) โดยแพทย์จะตัดเต้านมออกทั้งหมด..รวมทั้งหัวนม! หากพบมีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองก็ต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ออกไป บางรายอาจตัดเต้านมทั้ง 2 ข้าง หากพบว่าผู้ป่วยมีอัตราเสี่ยงสูงต่อการแพร่กระจายไปเต้านมข้างที่เหลือ
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดมะเร็งเต้านม
- รูปทรงเต้านมเปลี่ยนไป แก้ไขโดยการใส่อุปกรณ์เสริมเต้า หรือบางรายอาจผ่าตัดสร้างเสริมเต้านม
- แผลติดเชื้อหรือมีเลือดออก ให้สังเกตแผลว่ามีอาการบวมแดงหรือไม่?
- การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองรักแร้ออกทั้งหมด แขนข้างนั้นอาจจะบวมตึงและมีอาการชาต้นแขนด้านใน
รังสีบำบัดหรือการฉายรังสี
ผลข้างเคียงของการฉายรังสีและการดูแล
- รู้สึกเหนื่อยเพลียระหว่างฉายรังสี ควรพักผ่อนมากๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ผิวหนังบริเวณที่ถูกรังสีระคายเคืองง่ายและอาจปวดแสบ จึงห้ามโดนน้ำ ทาครีม ถูสบู่ โดนแดด และห้ามเกา
- อาการแขนไหล่บวม หัวไหล่ติด ควรมีการบริหารแขนและไหล่ เวลาใช้หมอนหนุนแขนให้สูงเพื่อลดอาการบวม
การรักษาด้วยเคมีบำบัด
ผลข้างเคียงหลังการรักษาด้วยเคมีบำบัดและการดูแล
การรักษาด้วยฮอร์โมน
การดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
- รักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด เพราะสามารถติดเชื้อได้ง่าย
- ไม่ทานยาอื่นๆ ที่นอกเหนือจากแพทย์สั่ง หรือ หากต้องการรับประทาน ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ทุกครั้ง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่หักโหมทำงานหนัก
- เลิก เหล้า บุหรี่ สารเสพติด และควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
- ดูแลจิตใจตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงความเครียด ความซึมเศร้า
- หากิจกรรมทำร่วมกับครอบครัวเพื่อสร้างกำลังใจให้ต่อสู้กับโรค
- รู้จักดูแลตัวเองในภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล อย่างเคร่งครัด
- ไปพบแพทย์ตามนัดเสมอ
- จำกัดอาหารหวานจัดและเค็มจัด เพราะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของไต
- พยายามกินอาหารให้ได้ หากรู้สึกว่าทานได้น้อย ก็ให้ทานบ่อยๆ
- รับประทานอาหารดีมีประโยชน์ครบ 5 หมู่
ถึงแม้ภัยจากมะเร็งเต้านมจะน่ากลัว แต่ก็สามารถป้องกันได้..ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และหมั่น “ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม” โดยสามารถคลำเต้าหาก้อนด้วยตัวเอง หลังหมดประจำเดือนประมาณ 1 สัปดาห์ หรือการตรวจแมมโมแกรมในผู้หญิงอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ซึ่งการตรวจพบการเกิดโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ…จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมได้