หากลูกคุณแพ้อาหาร…ลองมารู้จัก Oral Food Challenge Test
การทดสอบการแพ้อาหารที่สงสัยโดยการให้ลองรับประทาน
การทดสอบการแพ้อาหารที่สงสัยโดยการให้ลองรับประทาน (oral food challenge test) เป็นการยืนยันการวินิจฉัยโรคที่น่าเชื่อถือมากที่สุด คือการให้ผู้ป่วยลองรับประทานอาหารที่สงสัยแล้วสังเกตอาการที่เกิดขึ้น ไม่ว่าการแพ้อาหารนั้นจะเกิดจาก IgE หรือไม่ใช่จาก IgE ก็ตาม โดยที่…
หากจะทำการทดสอบ…ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ผู้ป่วยต้องสบายดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไรอย่างน้อย 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนวันที่ทำการทดสอบ รวมทั้งงดรับประทานยาแก้แพ้แอนตี้ฮีสตามีน นอกจากนี้ยังต้องมีการขอความยินยอม (inform consent) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครองซึ่งได้ รับทราบถึงขั้นตอนและวิธีการทำประโยชน์และความเสี่ยงในการทดสอบก่อนเริ่มทำการทดสอบ
เลี่ยงอาการรุนแรงจากการแพ้ฉับพลันได้ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์
ในกรณีที่มีอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลันควรทำการทดสอบในหอผู้ป่วยของโรงพยาบาลที่มีบุคลากรทางการแพทย์ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด มียาและอุปกรณ์ช่วยชีวิตเตรียมพร้อมเช่น Adrenaline ขณะที่ทำการทดสอบ เช่น อาการแพ้อย่างรุนแรง (anaphylaxis) และกลุ่มอาการ food protein induced enterocolitis (FPIEs) โดยควรพิจารณาเปิดเส้นเลือดดำ (intravenous access) ก่อนทำการทดสอบเอาไว้ก่อน แต่ในทางปฎิบัติเราอาจจะยกเว้นการทำ OFC ในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้อย่างรุนแรง (anaphylaxis) ในช่วง 1 ปีที่ผ่ามมา หรือผู้ป่วยที่มีระดับภูมิต่อต้านที่สูงอยู่ เช่น cow’s milk specific IgE > 5 kUA/L (อายุ <2 ปี) และ> 15 kUA/L (อายุ > 2 ปี)
ขั้นตอนการทดสอบด้วยการทานอาหารที่สงสัยว่าแพ้
สำหรับปริมาณอาหารที่สงสัยที่จะนำมาทำการทดสอบ แพทย์ผู้ทำการทดสอบจะให้เด็กเริ่มทานอาหารที่สงสัยว่าแพ้ในปริมาณ 5-10% ของปริมาณที่ควรได้รับตามปกติก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 2 เท่าในอีกทุกๆ 15 นาทีต่อมาและเฝ้าดูอาการที่เกิดขึ้น จนสามารถทานได้ในปริมาณปกติที่เด็กคนนั้นจะสามารถรับประทานได้ และให้ทานแทนอาหารปรกติทุกมื้อต่อไป โดยต้องสังเกตอาการต่ออย่างน้อย 24 -48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการอะไรก็แปลว่าผู้ป่วยไม่แพ้หรือหายจากการแพ้แล้ว แต่ในกรณีที่อาการของคนไข้เป็นแบบล่าช้าจะต้องสังเกตอาการไปนานอย่างน้อย 7 วัน