โรคลมชักที่ใครหลายๆ คนมักเรียกว่า ลมบ้าหมูนั้น เป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองนั้นเอง เมื่อกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดลัดวงจรขึ้น ก็จะส่งผลให้ระบบประสาทเกิดความผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมตนเองหรือเกิดอาการชักซ้ำๆ
โรคลมชักเป็นโรคทางระบบประสาทจาก 1,000 คนจะพบ 70 คน ถือได้ว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่เยอะมากแต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต โดยพบได้ในทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะในเด็กเล็ก 4 – 6 ขวบหรือผู้สูงอายุที่มีอาการของสมองเสื่อม
สาเหตุใดบ้างที่ก่อให้เกิดโรคลมชัก
นอกเหนือจากความผิดปกติของสมองแล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคลมชักได้ อาทิ กรรมพันธุ์ การติดเชื้อทางสมอง ขาดออกซิเจน การได้รับอุบัติเหตุกระทบกระเทือนทางสมอง คามผิดปกติของสมองตั้งแต่กำเนิด เนื้องอกในสมอง หลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน โรคไต รับยาเกินขนาดและรวมไปถึงผู้ที่เป็นพิษสุราเรื้อรัง
กระตุก เกร็ง หมดสติ
ในเบื้องต้นของอาการโรคลมชักนั้นเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมตนเองได้นั้นก็จะเกิดอาการชัก แขนขากระตุก ครึ่งซีกบ้าง อาจเกิดแบบเฉียบพลันหรือเป็นๆ หายๆ จะลามไปยังมือ มุมปากเพียงด้านเดียว เมื่อฟื้นหลังจากหมดสติมักจะสับสนหรือจำอะไรไม่ได้ในช่วงหนึ่ง
โรคลมชักไม่จำเป็นต้องมีอาการเกร็งหรือหมดสติเสมอไป
รูปแบบของอาการชักในผู้ป่วยจะแตกต่างตามลักษณะอาการที่แสดงออกมาในขณะที่ชัก ผู้ป่วยจะเริ่มจากการรู้สึกไม่สบายท้อง ได้กลิ่นแปลกๆ รู้สึกกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ หากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติก็จะส่งผลให้หัวใจเริ่มมีการเต้นจะมีการเต้นเร็วมากขึ้น ในบางรายก็แทบไม่แสดงอาการชัก กระตุ้นเกร็งแต่อย่างใด
เมื่อพบผู้ป่วยควรทำอย่างไรดี
หากพบผู้ป่วยที่มีอาการชักควรรีบจับผู้ป่วยนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ลำลักเศษอาหารเข้าไปในปอด จากนั้นปลดเสื้อผ้าให้หลวม เคลียร์สถานที่ให้โปร่ง โล่ง สบายเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกมากขึ้น ไม่ควรนำวัตถุใดๆ สอดในปากผู้ป่วยเพื่อป้องกันไม่ให้กัดลิ้นเพราะจะทำให้ปากและฟันของผู้ป่วยได้รับการบาดเจ็บหรืออุดกั้นทางเดินหายใจ หากผู้ป่วยรู้สึกตัวให้จับอยู่ในมานั่งที่หายใจสะดวก เมื่อฟื้นตัวดีแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้ด่วนที่สุด
โรคลมชักอันตรายแค่ไหน
หากผู้ป่วยแสดงอาการอยู่บ่อยๆและไม่ได้รับการรักษา กระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติในสมองจะทำให้เกิดการหลั่งสารออกมาแล้วทำลายเซลล์สมอง นานเข้าอาจทำให้เนื้อสมองตาย ความจำก็จะมีปัญหาหากทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ขับรถหรือว่ายน้ำ ก็จะอันตรายและอาจประสบอุบัติเหตุได้ผู้ป่วยจึงไม่ควรที่จะขับรถหรือทำกิจกรรมหนักๆ นั้นเอง
โรคลมชักไม่ได้น่ากลัวและรุนแรง หากแต่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว ก็สามารถรักษาอาการให้หายขาดได้ทางที่ดีหากใครที่ไม่แน่ใจลองเข้ารับการตรวจเช็คหรือให้คนใกล้ตัวสังเกตอาการผิดปกติเพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน