การใช้ชีวิตประจำวันแบบไม่ระวัง เช่น นั่งผิดท่าเป็นเวลานาน ยกของหนักบ่อย ก้มเงยเป็นประจำ บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเล่นกีฬา ก็สามารถทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อนได้ ส่วนอีกสาเหตุคือความเสื่อมของข้อต่อกระดูกสันหลัง ที่ทำให้การยึดเหนี่ยวของกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพ เกิดการเคลื่อนของกระดูกสันหลังจนมาทับเส้นประสาท ที่พบมากในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 40 ปี
ปล่อยไว้ไม่รักษา… อาจไม่สามารถขับถ่ายได้เอง
เบื้องต้นจะมีอาการปวดหลังบริเวณเอว ปวดเมื่อยเวลานั่งนานหรือเดินไกล มีอาการแบบเรื้อรัง และเป็นบ่อยขณะก้มหรือเงย เมื่อกระดูกสันหลังเคลื่อนมาทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียงแล้วล่ะก็ จะมีอาการปวดร้าวลงขา ขาชา ปวดเหมือนไฟช็อต ขาอ่อนแรง เดินไกลไม่ได้ หากกดทับเส้นประสาทมาก ผู้ป่วยจะไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระได้เลย
ใช่ว่าผู้ป่วยทุกคนต้องผ่าตัด
การรักษาในเบื้องต้นนั้น แพทย์จะให้ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อ ทำกายภาพบำบัดด้วยการใส่เครื่องช่วยพยุงหลัง และบริหารกล้ามเนื้อหลังเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการชาลงขาแล้ว แพทย์จะวินิจฉัยให้ผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลัง เพื่อเชื่อมข้อต่อให้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง
คลายปัญหาด้วยการผ่าตัดใส่สกรูแบบแผลเล็ก
ปัจจุบันมีนวัตกรรมผ่าตัดแผลเล็กแก้ไขโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทด้วยการผ่าตัดใส่สกรูยึดกระดูกสันหลัง (Transforaminal Lumbar Interbody Fusion: TLIF) ใช้การเจาะผิวหนังเป็นแผลเล็กแล้วนำกล้องขนาดเล็กส่องภายใน เพื่อหาบริเวณที่กระดูกเคลื่อน แล้วจึงนำสกรูเข้าไปยึดตรึงกระดูก วิธีนี้ช่วยให้คนไข้สูงอายุฟื้นตัวเร็ว เพราะแผลมีขนาดเล็ก ไม่เสียเลือดและไม่เจ็บปวดมาก
การถนอมกระดูกสันหลังนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อบริหารกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรง ควบคุมน้ำหนักตัว เลี่ยงการกระแทกจากการกระโดดหรือดึงรั้งกระดูกสันหลังแบบผิดท่า ก็ช่วยป้องกันภาวะเสื่อมของกระดูกสันหลังได้