แนวทางรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ก่อนถึงขั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า มีอะไรบ้าง?
ขั้นเริ่มต้นรักษาด้วยยาก็หายได้
โดยส่วนมากแพทย์จะให้รับประทานยาประเภทแก้ปวดและแก้อักเสบ เพื่อลดอาการปวดข้อเข่าในขั้นเริ่มต้น ซึ่งถ้ารับประทานยาเป็นเวลานานเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียงของยาได้ เช่น มีผลต่อกระเพาะอาหาร และถ้าหากทานยาแล้วไม่สามารถบรรเทาอาการได้ แพทย์จะใช้เป็นการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในข้อเข่าเพื่อช่วยลดการอักเสบแทน
กายภาพบำบัดควบคู่กับการทานยา
นอกจากทานยาแล้ว ควรทำกายภาพบำบัดเสริม เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อบริเวณรอบเข่า โดยทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน 4 วิธีนี้เลย
1. นอนหงายและกดเข่า นอนหงายกับพื้นโดยวางหมอนไว้บริเวณเข่า พร้อมกับกดเข่ายืดให้สุดทีละข้าง
2. นอนคว่ำและงอเข่า นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นขาเหยียดตรง งอเข่าเข้ามาหาตัวทีละข้างให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
3.นั่งห้อยขาและเหยียดเข่า นั่งบนเก้าอี้ ใช้หลังพิงผนัก ยื่นขาออกมาข้างหน้าช้าๆ พร้อมกระดกข้อเท้า
4. พิงฝาผนังและย่อตัว หลังพิงฝาผนังไว้ ให้เท้าห่างจากผนังประมาณ 1 ฟุต ค่อยๆ เลื่อนตัวลงให้เข่างอเล็กน้อย
ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าลดการเสียดสี
เมื่อรักษาเบื้องต้นแล้วยังไม่ได้ผล แพทย์จะแนะนำให้ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าสังเคราะห์ หรือ Hyaluronic Acid ส่วนมากผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม น้ำในข้อจะมีความหนืดทำให้เกิดการติดขัด จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงเข้าไปช่วยเสริมการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน พร้อมกระตุ้นการสร้างน้ำเลี้ยงข้อเข่าใหม่ และยังช่วยลดอาการปวดลงได้ แพทย์จะฉีดน้ำเลี้ยงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3-5 สัปดาห์ โดยการรักษาจะอยู่ได้ 6 เดือน – 1 ปี
ทำความสะอาดข้อด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยในระยะปานกลาง ที่มีอาการอักเสบมาเป็นเวลานาน และรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล เป็นส่องกล้องเข้าไปล้างทำความสะอาด เอาเศษกระดูกที่สึกหรอ หรือหลุดลอยอยู่ออก เพื่อลดการอักเสบ บวม และลดอาการปวด ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อเข่าสะดวกมากขึ้น โดยจะมีแผลเล็กๆ เพียงแค่ 0.5-2 เซนติเมตรเท่านั้น นอกจากจะช่วยให้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการติดเชื้อจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
