1. ปัสสาวะผิดปกติ
ปกติตื่นเช้ามาสีของปัสสาวะก็อาจจะเข้มหน่อย เพราะไม่ได้กินน้ำมาทั้งคืน พอสายๆ สีก็จะเริ่มใสขึ้นแต่ก็ยังเป็นเหลืองอ่อนๆ นั่นคือปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ปัสสาวะกี่ครั้งก็เป็นสีขาวใสแจ๋วอย่างเดียวเลย ก็แสดงว่าไตเริ่มกรองของเสียไม่ได้แล้ว หรือในบางคนที่ปัสสาวะขุ่นหรือมีฟอง อาจมีการรั่วของโปรตีนเกิดขึ้น ยิ่งถ้าปัสสาวะบ่อยเป็นสิบๆ ครั้งยิ่งต้องรีบไปตรวจ
2. หน้าตา แขน ขาบวม
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคไตจะมีอาการบวมของเปลือกตาบน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน แล้วค่อยบวมไปที่ข้อเท้า ลามมาขาท่อนล่าง จนกลายเป็นทั่วตัว บอกเลยว่าการบวมนี้เกิดจากการที่มีน้ำและเกลือเพิ่มขึ้นในร่างกาย ซึ่งเกิดจากการที่ไตไม่สามารถขับของเสียได้ตามปกติ วิธีเชคง่ายๆ คือให้ลองใช้นิ้วกดที่หน้าแข็งซักพักแล้วปล่อย ถ้ามีรอยบุ๋มค้างอยู่ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ด่วน
3. ปวดเอว ปวดหลัง
ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายมาหักโหม แต่อยู่ดีๆ ก็ปวดเมื่อยเอว ในตำแหน่งช่วงหลังด้านล่าง นั้นอาจเกิดจากการผิดปกติของไตได้ หรือบางเคสปวดบริเวณชายโครง ร้าวไปถึงท้องน้อย หรือหนักจนถึงกระดูกและข้อ ก็อาจเกิดจากการอุดตันที่ท่อไต หรือกรวยไตอักเสบได้เหมือนกัน ลองใช้มือทุบเบาๆ ถ้าเจ็บ ก็แปลว่าอาจมีการอักเสบที่ไต หรือมีการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน
4. ทำอะไรก็ไม่ค่อยมีแรง
ในเคสที่ผู้ป่วยที่เป็นไตในระยะน้อยๆ อาจจะยังไม่ค่อยแสดงอาการอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เป็นหนักเข้า ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่มีแรงจะทำอะไร ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นหนักถึงขั้นไตวายเรื้อรัง ก็จะมีอาการหน้าซีด คันตามตัว รวมไปถึงเบื่ออาหารได้ด้วยเหมือนกัน