ถูกสุนัขกัดต้องล้างแผลอย่างไร เมื่อไหร่ต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า

พญาไท 2

1 นาที

ศ. 27/03/2020

แชร์


Loading...
ถูกสุนัขกัดต้องล้างแผลอย่างไร เมื่อไหร่ต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า

เมื่อถูกสุนัขกัด ควรทำอย่างไร?

เมื่อถูกสุนัขจรจัดกัด หรือสุนัขที่ไม่มีเจ้าของกัด เราควรปฐมพยาบาลหรือล้างแผลอย่างไรดี แล้วกรณีไหนบ้างที่ต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า
  • กรณีถูกสุนัขกัดโดยไม่มีแผลหรือรอยถลอก แต่สัมผัสน้ำลายหรือเลือดของสุนัข

    • ให้ล้างบริเวณที่สัมผัสน้ำลายหรือเลือดของสุนัขให้สะอาด
    • ไม่ต้องฉีดวัคซีน และให้สังเกตอาการของสุนัขอย่างน้อย 10 วัน ถ้าสุนัขมีอาการเปลี่ยนแปลงและสงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน
  • กรณีถูกสุนัขกัดเป็นรอยช้ำที่ผิวหนังไม่มีเลือดออกหรือเลือดออกซิบๆ หรือถูกข่วนที่ผิวหนังเป็นรอยถลอก ไม่มีเลือดออกหรือเลือดออกซิบๆ

    • ให้ล้างบาดแผลด้วยน้ำและสบู่โดยฟอกหลายๆ ครั้ง ล้างสบู่ออกให้หมด และรักษาบาดแผล
    • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (rabies vaccine)
  • กรณีถูกสุนัขกัดโดยฟันของสุนัขแทงทะลุผ่านผิวหนังแผลเดียวหรือหลายแผล และมีเลือดออก หรือถูกข่วนจนผิวหนังขาดและมีเลือดออก

    • รีบล้างบาดแผลด้วยน้ำสบู่โดยฟอกหลายๆ ครั้ง พยายามล้างให้เข้าถึงรอยลึกของแผล อย่างน้อย 15 นาที ล้างสบู่ออกให้หมด ระวังอย่าให้บาดแผลช้ำ ห้ามทาครีมใดๆ
    • ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น 70% แอลกอฮอล์ โพวิดีน-ไอโอดีน
    • ฉีดวัคซีนและอิมมูโนโกลบุลิน (rabies vaccine และ RIG) โดยเร็วที่สุด
    • ควรกักขังและเฝ้าดูอาการของสุนัขอย่างน้อย 10 วัน หากสุนัขตายต้องรีบไปพบแพทย์อีกครั้ง

 

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

  • การฉีดวัคซีน : จะต้องฉีดให้ครบ 1 ชุด ซึ่งมีทั้งหมด 5 เข็ม ใช้เวลาในการฉีดประมาณ 1 เดือน โดยฉีดวัคซีนในวันแรกที่ถูกสุนัขกัด และในวันที่ 3, 7, 14 และ 30 หลังสุนัขกัดตามลำดับ ซึ่งการฉีดวัคซีนจะแตกต่างกันไประหว่างผู้ที่ไม่ถูกสุนัขกัด กับผู้ที่ถูกสุนัขกัด แล้วแต่กรณี

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...