ปัจจุบันคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนเมือง นิยมกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง อีกทั้งยังใช้เวลาทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงต่อวัน ขยับตัวน้อย ทำงานหนัก นอนดึก และไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หลายคนจึงมีปัญหาสุขภาพรุมเร้าตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งรวมถึงการมีน้ำหนักตัวสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม ปัญหาเหล่านี้อาจสะสมจนก่อให้เกิดโรคเรื้อรังในระยะยาวได้ ตัวอย่างโรคที่สัมพันธ์กับความอ้วน เช่น
ข้อต่อและกล้ามเนื้อบาดเจ็บ
ข้อต่อและกล้ามเนื้อของผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ปกติจะต้องรับน้ำหนักมากอยู่ตลอดเวลาจึงเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย
ไตทำงานหนัก
คนอ้วนมักกินอาหารเยอะเป็นพิเศษ ไตจึงต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดของเสียต่างๆ นอกจากนี้คนอ้วนยังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้ต้องกินยาเป็นประจำ ซึ่งยาเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบต่อไตได้
โรคเบาหวาน
การออกกำลังกายน้อยประกอบกับกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคอ้วนและเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานได้ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันจะถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
โรคความดันโลหิตสูง
อันที่จริงไม่ว่าจะอ้วนหรือผอมก็สามารถเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ แต่ถ้ายิ่งชอบกินอาหารหวาน มัน เค็มเป็นประจำ และมีภาวะอ้วนร่วมด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น
โรคไขมันในเลือดสูง
หากร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ อาจส่งผลให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ อุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากการกินอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและคอเรสเตอรอล
โรคนิ่วในถุงน้ำดี
นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากการสะสมของไขมันและคอเรสเตอรอล ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งมีความเสี่ยง เนื่องจากอัตราการเผาผลาญลดลงตามวัย เราจึงควรเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยลดการเกิดตะกอนที่ทำให้เกิดนิ่ว
ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
ภาวะนี้พบมากในคนอ้วนและผู้ที่มีโรคประจำตัวแทรกซ้อน เป็นการนอนหลับแบบไม่ปกติซึ่งมีผลทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเรื้อรัง รวมถึงเกิดการหลั่งสารที่มีผลต่อการบีบตัวของหลอดเลือด ส่งผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้
โรคมะเร็ง
ความอ้วนเป็นปัจจัยเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่
ลดโอกาสเสี่ยงด้วยการหลีกเลี่ยงความอ้วน
คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถประเมินภาวะอ้วนลงพุงได้ง่ายๆ ด้วยการวัดเส้นรอบเอวบริเวณจุดที่ผ่านสะดือ (หน่วยเป็นเซนติเมตร) แล้วนำตัวเลขมาเปรียบเทียบกับส่วนสูง (หน่วยเป็นเซนติเมตร) หาร 2 หากตัวเลขของเส้นรอบเอวมากกว่าส่วนสูงหาร 2 นั่นแสดงว่าคุณอาจกำลังมีภาวะอ้วนลงพุง หรือใช้วิธีคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) ด้วยการนำน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง สำหรับคนเอเชียค่าดัชนีมวลกายที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 18.5-22.9 หากอยู่ระหว่าง 23.00-24.9 จัดว่าเป็นคนท้วมหรือเริ่มอ้วนในระดับหนึ่ง และหากเกิน 25 ขึ้นไปถือว่าเป็นคนอ้วน
สาเหตุของโรคอ้วนโดยมากเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีบางกรณีที่เกิดจากพันธุกรรมหรือความผิดปกติบางประการ เช่น การเป็นโรคไทรอยด์ ซึ่งทำให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ
แนวทางในการลดความอ้วนที่ปลอดภัยและส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยที่สุด คือการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ในปริมาณพอดี หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด ของหวาน และหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ในกรณีที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่ยังคงอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจมีความผิดปกติบางอย่างแฝงอยู่ในร่างกาย