โรคหลอดเลือดสมอง หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยเราไปแล้ว จากสถิติในปี พ.ศ. 2557 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้มากกว่า 228,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ถึง 25,114 คน ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจำนวนมากกลายเป็นคนพิการหรือไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนเดิม
จุดเริ่มต้น…ของความผิดปกติ
อย่างที่รู้กันดีว่าเลือดนั้นมีส่วนสำคัญในการไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และอวัยวะที่สำคัญอย่าง “สมอง” ก็ต้องการเลือดไปเลี้ยงเช่นกัน เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติ เกิดการอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองส่วนใด สมองส่วนนั้นก็จะหยุดทำงานทันที ทำให้เกิดอาการทางสมองอย่างเฉียบพลัน เกิดเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งหากมีเลือดกลับมาเลี้ยงเซลล์สมองได้ก่อนที่เซลล์สมองส่วนนั้นจะตาย สมองก็จะฟื้นตัวกลับมาทำงานได้ตามปกติ อาการอัมพฤกษ์ อัมพาตก็จะดีขึ้น
สัญญาณอันตราย…ที่ไม่ควรละเลย
“หน้าเบี้ยว แขนขาไม่มีแรงครึ่งซีก เดินเซ พูดไม่ชัด” คืออาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรค ซึ่งถ้ามีอาการแบบนี้เมื่อไร สิ่งที่ต้องรีบทำคือ ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะการรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันที่ดีที่สุด ก็คือการเปิดท่อหลอดเลือดที่อุดตันด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือด (rt-PA) เพื่อให้เลือดกลับมาเลี้ยงสมองให้ทันเวลา ซึ่งต้องทำภายใน 4 ชั่วโมงครึ่งหลังมีอาการ แต่เนื่องจากผู้ป่วยอาจต้องใช้เวลาในการตรวจเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) ประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้น ผู้ป่วยควรต้องมาให้ถึงโรงพยาบาลภายในเวลา 3 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ หรือเร็วกว่านี้ถ้าเป็นไปได้ เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงสมองได้เร็วที่สุด
“ rt-PA ”…ลดความเสี่ยงในการพิการได้
การใช้ยาละลายลิ่มเลือด rt-PA (Recombinant Tissue Plasminogen Activator) นั้น แพทย์จะพิจารณาจากน้ำหนักของผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ขวดเดียว (ขนาด 50 มก.) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งจากการศึกษาในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาตัวนี้มีโอกาสที่จะหายจากอัมพาตมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ยาประมาณร้อยละ 30 และหากได้รับยาเร็วก็จะยิ่งดีมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดอาการโรคหลอดเลือดสมองจึงควรไปโรงพยาบาลที่สามารถให้ยานี้ได้โดยเร็วที่สุด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยา rt-PA
จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 7 ของผู้ป่วยที่ได้รับยานี้อาจจะมีเลือดออกในสมองได้ และเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่เกิดเลือดออกในสมอง อาจมีอาการหนักจนเสียชีวิตได้ ดังนั้น ต้องมั่นใจว่าแพทย์มีความชำนาญและประสบการณ์เพียงพอ ในการตรวจความพร้อมของผู้ป่วยก่อนให้ยา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีผลเสียน้อยที่สุด
มั่นใจในความพร้อม…ของโรงพยาบาลพญาไท 1
โรงพยาบาลพญาไท 1 พร้อมให้บริการรักษาผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และทีมสหสาขาวิชาชีพพร้อมให้การรักษาตลอดเวลา โดยมีบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองตลอด 24 ชั่วโมง มีหอผู้ป่วยที่ให้การรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ เพื่อดูแลผู้ป่วยให้ฟื้นตัวจากอัมพาตให้ดีที่สุด นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกที่มีหอผู้ป่วยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมองนี้
หากผู้ป่วยยังมีอาการแขนขาอ่อนแรง จะได้รับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดและนักกิจกรรมบำบัดที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยให้ฟื้นตัวจากความพิการ ทีมรักษาจะให้ความรู้ในการดูแลตัวเอง การควบคุมปัจจัยเสี่ยง การนัดหมายกับแพทย์เพื่อการดูแลผู้ป่วยภายหลังจากที่กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำใหม่อีก
Tips !!
ความจริงแล้ว เราสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองนี้ได้ ด้วยการลด ละ เลิก ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ การควบคุมความดันโลหิตให้ไม่สูงกว่า 140/80 มม.ปรอท (130/80 สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน) คุมระดับน้ำตาลเฉลี่ย (HbA1C) ในเลือดให้ต่ำกว่า 7 สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน และระดับไขมันแอลดีแอล (LDL) ให้ต่ำกว่า 130 มก./ดล. (หรือต่ำกว่า 70 มก./ดล. สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน) และออกกำลังกายชนิดแอโรบิคครั้งละ 20 นาทีอย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ