“น้ำมูกไหล จาม คัดจมูกเรื้อรัง ปากบวม หน้าบวมหลังกินอาหาร ผื่นคัน หรือลมพิษเรื้อรัง หอบหืดหรือไอเรื้อรัง” แม้อาการเหล่านี้จะไม่ใช่โรคอันตราย แต่ก็สามารถทำลายคุณภาพชีวิตของเราได้ และถ้าเป็นมากๆ ก็อาจกระทบการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เหมือนกัน หรือรายที่มีอาการแพ้รุนแรงนั้นบางคนจะหอบหืด จนถึงขั้นหายใจไม่ออก ทำให้ร่างกายมีภาวะขาดออกซิเจนได้
อยากชนะอาการแพ้ ต้องแก้ที่สาเหตุ
อาการแพ้ที่เกิดกับร่างกายของเรานั้น เกิดจากร่างกายของเรารับสารกระตุ้นภูมิแพ้ ด้วยการสัมผัสทุกช่องทาง หรือการสูดหายใจเข้าไป ซึ่งสารดังกล่าวจะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานและหลั่งสารชื่อฮีสตามีน (Histamine) ออกมา ทำให้เกิดอาการแสดงต่างๆ เช่น หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เนื้อเยื่อบวม หรือ คัน เป็นลมพิษ เป็นต้น
ฝุ่น… ต้นเหตุภูมิแพ้ที่มักถูกมองข้าม
ผู้ที่แพ้จะมีอาการมากน้อยต่างกัน ตั้งแต่คันจมูก คันตา น้ำมูกใส จามบ่อย แน่นจมูก เจ็บคอ รายที่เป็นมาก อาจมีอาการแน่นหน้าอก หอบหืด ชื่อของการแพ้ก็บอกอยู่แล้ว ว่าเกิดจากฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งเรามองไม่เห็น ทำให้เกิดอาการแพ้ คันจมูก น้ำมูกไหล บางรายอาการไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง ก่อให้เกิดความรำคาญไม่สะดวกในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะไปไหนก็มีเหตุให้จาม หายใจฟึดฟัด จนกลายเป็นโรคประจำตัวไป ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าอาการแพ้เหล่านี้จะเบาบางลงได้ ถ้าอยู่สถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีออกซิเจนมาก
แพ้ไรฝุ่น สัญญาณเตือนโรคทางเดินหายใจอักเสบและโรคหอบหืด
ไรฝุ่น มีอยู่ในทุกที่ที่มีเส้นใย ไม่ว่าจะในตุ๊กตา เบาะรถ ผ้าห่ม หมอน ผ้าปูที่นอน หรือตามผิวหนังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนก ตัวไรพวกนี้จะกินเศษเนื้อเยื่อผิวหนังที่ตายแล้ว รวมไปถึงขี้ไคล และรังแคของเรา ซึ่งพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งต่างๆ เหล่านี้โดยที่เราไม่มีโอกาสมองเห็น
เมื่อเราสูดลมหายใจหรือผิวหนังของเราสัมผัสกับตัวไรฝุ่น ร่างกายของเราก็จะสร้างภูมิต้านทาน (antibodies) ซึ่งจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน ทำให้เกิดการบวมและการระคายเคืองของทางเดินหายใจตอนต้น นั่นก็คืออาการของโรคทางเดินหายใจอักเสบและโรคหอบหืด และภูมิแพ้นี้ยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วย
นอกจากไรฝุ่นแล้ว ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการแพ้ ได้แก่
- แมลงสาบ แมลงสาบมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคหอบหืด ซึ่งพบว่าโปรตีนในน้ำลายจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าสิ่งขับถ่ายและตัวแมลงสาบ เป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่นกัน
- สุนัขหรือแมว แต่เดี๋ยวก่อน! ที่เราเข้าใจว่าโรคภูมิแพ้เกิดจากขนสุนัขหรือแมวนั้นไม่ถูกต้อง สารก่อภูมิแพ้ในสุนัขนั้นคือโปรตีนที่อยู่ในเศษขี้ไคล น้ำลายและฉี่ของสุนัขต่างหาก ซึ่งอาการแพ้ส่วนใหญ่ที่พบได้ ก็คือการไอ จาม คัดจมูก หายใจลำบาก หอบหืด คัน น้ำตาไหล น้ำมูกไหล ผื่นคันที่ใบหน้า คอ แขนขาและลำตัว อาการเหล่านี้มักกำเริบหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยงประมาณ 30 นาที พบบ่อยในผู้ที่ชอบนำสัตว์เลี้ยงมาไว้ในห้องนอน ผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สัตว์ในการทดลอง สัตวแพทย์ ช่างแต่งขนสุนัข
- เชื้อรา อาการแพ้เชื้อราส่วนใหญ่แสดงอาการในลักษณะ แน่นจมูก หายใจอึดอัด น้ำมูกไหล หรืออาจมีอาการหืดหอบ บางรายมีอาการรุนแรง หรือเกิดผื่นลมพิษ และเยื่อบุในหลอดลมบวม ใบหน้าบวม
เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแพ้อะไรบ้าง
เราจะรักษาอย่างไรโรคภูมิแพ้อย่างไรก็ต้องทราบก่อนว่าตัวเองแพ้อะไร ซึ่งสามารถทราบด้วยการทดสอบอาการแพ้ การทดสอบภูมิแพ้นั้นแบ่งเป็น 2 วิธี คือ
- การสะกิด (Sin Prick Test) เป็นการทดสอบโดยหยดน้ำยาลงบนผิวหนังที่แขนและใช้เข็มสะกิดลงบนปลายหยดน้ำยา ซึ่งทำง่าย เร็ว ไม่เจ็บและใช้อุปกรณ์น้อย มีความเสี่ยงต่อการแพ้ทั่วร่างกายน้อย
- การฉีดเข้าผิวหนัง (Intradermal Test) เป็นการฉีดน้ำยาเข้าผิวหนังเป็นจุดเล็กๆ ซึ่งทำยากกว่าและเสียเวลามากกว่า เจ็บกว่าและใช้อุปกรณ์มากกว่า ที่สำคัญคือเสี่ยงต่อการแพ้ทั่วร่างกายได้มากกว่าการสะกิดอีกด้วย
โดยสารทดสอบภูมิแพ้ที่แพทย์เลือกใช้ อาทิ American Cockroach (แมลงสาบอเมริกัน) , German Cockroach (แมลงสาบเยอรมัน), Dog Epithelium (สุนัข), Standarded Cat Pelt (แมว), House Dust Concentrate (ฝุ่นในบ้าน), Cotton Linters (สำลี), Kapok (นุ่น), Standarded mite (D.Farinae) ไรฝุ่น, Standarded mite (D.Pleronnyssinus) ไรฝุ่น, Standarded Timothy หญ้า, Standarded bermude Grass หญ้า, Careless weed Test วัชพืช, Acacia ยางไม้, Candida Albicans เชื้อรา, Mix Aspergillus เชื้อรา, Clad Cladosporiodes เชื้อรา, Mixed Skin Test (Chick Duck goose) เป็ด ห่าน ไก่, Mixed Shellfish หอย กุ้ง ปู กุ้งมังกร, Peanut ถั่ว, Wheat Grain แป้งสาลี, Johnson Grass หญ้าแพรก, Histamine และ NSS/Negative Control
หากใครที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ ควรไปพบแพทย์เพื่อซักประวัติและตรวจร่างกาย พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เพื่อเป็นแนวทางที่จะทราบถึงสาเหตุของอาการ และดำเนินการรักษาในขั้นต่อไป
ศูนย์รักษาโรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เปิดให้คำปรึกษา เพื่อการ ปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ การลดสิ่งก่อกระตุ้นภูมิแพ้ และการปฏิบัติขณะเกิดอาการเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์มาก ที่สุด พร้อมทั้งตอบทุกข้อสงสัยและร่วมกันวางแผนการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย