ยาบางชนิดที่คุณแม่รับประทานขณะตั้งครรภ์ อาจมีผลต่อการเจริญเติบโตหรือสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ ได้ ดังนั้น…ก่อนจะซื้อหรือใช้ยาทุกชนิด จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ!!
ยารักษาอาการแพ้ท้อง
ปัจจุบันยาที่เชื่อว่าปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในครรภ์ คือ วิตามิน บี 6 และยาไดแมนโฮดริเนต แต่ถ้าหากคุณแม่มีอาการไม่มาก ..และไม่อยากใช้ยา นี่คือเทคนิคการปฏิบัติที่ช่วยบรรเทาอาการได้
- ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส ลดความวิตกกังวล
- หลังจากตื่นนอน รับประทานเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น นมถั่วเหลือง
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน รสจัด และมีกลิ่นรุนแรง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะช่วงอาเจียนจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากขึ้น ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
ยาแก้หวัดและยาแก้แพ้
ยาที่ปลอดภัย คือ ยาแก้แพ้คลอร์เฟนนิรามีน แต่มีข้อเสียคือทำให้เกิดอาการปากแห้ง ง่วงซึม มึนงง ดังนั้น..ถ้าคุณแม่มีอาการคัดจมูกไม่มากนัก การใช้วิธีธรรมชาติ เช่น สูดดมไอน้ำร้อน ดมหรือทายาน้ำมันหอมระเหย รักษาร่างกายให้อบอุ่น และดื่มน้ำมากๆ ก็ช่วยบรรเทาอาการได้
ยาแก้ไอขับเสมหะ
หากคุณแม่มีอาการไม่มาก แนะนำให้รับประทานน้ำอุ่น..โดยอาจบีบมะนาวลงไปสักเล็กน้อย แล้วจิบบ่อยๆ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการมาก ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง เพราะยาแก้ไอบางตัวมีผลต่อทารกในครรภ์
ยาบรรเทาปวดลดไข้
ยาปลอดภัยที่คุ้นเคยและรู้จักกันดี คือ ยาพาราเซตามอล โดยรับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด ทุกๆ 4-6 ชั่วโมงเวลามีอาการปวดหรือมีไข้ และ “ไม่ควร” รับประทานเกินวันละ 8 เม็ด หรือทานติดต่อกันนานเกิน 10 วัน และถ้าคุณแม่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับตับหรือไต ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
ยาต้านการติดเชื้อ
- ยากลุ่มเพนนิซิลินเป็นยากลุ่มที่ปลอดภัย ยกเว้นผู้ที่แพ้ยานี้ อาจจะเลี่ยงไปใช้ยาอิริโทรมัยซัน
- ยากลุ่มที่เป็นอันตราย ได้แก่ เตตร้าชัยคลิน, ด็อกซี่ชัยคลิน ยากลุ่มนี้จะเกาะกับเคลือบฟันและกระดูก ทำให้ทารกคลอดออกมามีฟันเหลืองดำ กระดูกไม่แข็งแรง และหากยาหมดอายุ หรือเสื่อมสภาพ จะมีผลต่อตับและไตคุณแม่อีกด้วย
- ยากลุ่มซัลโฟนาไมด์ ไม่ควรใช้ในช่วงเวลาใกล้คลอด เพราะจะทำให้ทารกมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีฟอง ถ้าเป็นมากสมองอาจเสื่อม และปัญญาอ่อนได้ในที่สุด
- สำหรับยาต้านการติดเชื้ออื่นๆ บางตัวอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย
ยาบำรุง วิตามิน เกลือแร่
ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการวิตามิน และแร่ธาตุบางชนิดเพิ่มขึ้นกว่าปกติ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ซึ่งเมื่อคุณแม่มาฝากครรภ์ แพทย์จะพิจารณาให้วิตามินตามความเหมาะสม
ยาระบายและรักษาโรคท้องร่วงท้องเสีย
ปัญหาท้องผูกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ คุณแม่จึงควรรับประทาน ผัก ผลไม้ ที่มีกากมากๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะการใช้ยา..ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ และเลือกแบบที่ออกฤทธิ์นุ่มนวล เช่น ยาที่ผลิตจากเมล็ดเทียนเกล็ดหอม (เมตามูซิล) ยาที่ผลิตจากใบมะขามแขก (สโนกอต) หรือยาที่สอดเข้าทางทวารหนัก แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องท้องเสีย…ควรทดแทนด้วยการดื่มน้ำเกลือแร่ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์