พ่อแม่หยุดรังแกลูกด้วยแท็ปเล็ต...ก่อนจะสายเกินไป!!

พญาไท 2

1 นาที

อ. 31/03/2020

แชร์


Loading...
พ่อแม่หยุดรังแกลูกด้วยแท็ปเล็ต...ก่อนจะสายเกินไป!!

หลายครอบครัวในปัจจุบันมักจบปัญหาลูกซนด้วยการยื่นแท็ปเล็ตให้เด็กเล่น หลังจากทำอย่างนั้นบ่อยๆ เด็กก็เริ่มชอบ  เพราะรู้สึกเพลิดเพลิน…ในที่สุดก็ติดจนเข้าขั้นละสายตาจากแท็บเล็ตไม่ได้อีกต่อไป สำหรับพ่อแม่คนไหนที่กำลังคิดว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวโตขึ้นไปลูกก็เลิกติดได้เอง” ขอบอกว่า…คุณอาจกำลังคิดผิด! เพราะพฤติกรรมการติดเทคโนโลยีนี้ อาจส่งผลร้ายต่ออารมณ์ของลูก  และหากปล่อยไว้นาน…อาจสายเกินแก้ไข

สัญญาณที่บอกว่า…ลูกคุณกำลังติดแท็บเล็ตอย่างรุนแรง!

เด็กติดจนไม่สนใจสิ่งอื่นๆ รอบตัวเลย!! เวลาพูดคุยกับพ่อแม่ก็ไม่หันหน้าคุย จดจ่ออยู่กับแท็ปเล็ตตลอดเวลา ไม่สามารถสั่งให้เลิกทันทีได้ และถ้าไม่ได้เล่นก็จะร้องไห้ โวยวาย ยิ่งไปกว่านั้นเด็กจะมีโลกส่วนตัวสูง มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่รวดเร็ว ฉุนเฉียวง่าย รอคอยไม่เป็น อยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกมส์ในแท็บเล็ตมักจะเป็นเกมส์ที่เร็ว จบเกมส์ง่าย เริ่มต้นใหม่เร็ว ถ้าเล่นแล้วแพ้สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เลย เด็กจึงติดนิสัยที่ต้องการอะไรที่รวดเร็ว

โดยอารมณ์ใจร้อนนี้จะสะสมจนเด็กกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ก้าวร้าวไปโดยไม่รู้ตัว อาจส่งผลกระทบต่อทักษะการเข้าสังคมในอนาคตได้ด้วย และการจ้องหน้าจอภาพเป็นเวลานานก็จะทำให้เด็กขาดความกระตือรือร้นและไม่กระฉับกระเฉงเมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน

ลูกติดแท็ปเล็ต ปัญหาใหญ่ที่มีสาเหตุมาจาก….พ่อแม่รังแกหนู!!

เด็กยังไงก็คงยังเป็นเด็ก พ่อแม่ต่างหาก…ที่เป็นคนสอนให้ลูกใช้กันทั้งนั้น!! ซึ่งเด็กยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าควรเล่นนานแค่ไหน หรือตัวเองกำลังติดสิ่งเหล่านั้นอยู่หรือเปล่า พวกเขาเพียงแต่เพลิดเพลินกับการเล่นสิ่งนั้นๆ เด็กจะสนใจเพียงภาพและเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ถ้าสิ่งที่เด็กกำลังเล่นอยู่นั้นเป็นเกมส์หรือเนื้อหาที่ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นก็จะดี แต่ถ้าหากเด็กติดเกมส์หรือเพียงดูวีดิโอจากสิ่งเหล่านี้อย่างเปล่าประโยชน์ ปล่อยไว้นานๆ คงไม่ดีแน่นอน ดังนั้นเราควรต้องเริ่มแนะนำและสอนลูกให้รู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ควรให้เด็กใช้นานเกินไป เพราะพัฒนาการของเด็กสามารถสร้างได้จากการทำกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อลูกกำลังติดแท็ปเล็ต นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ…

เริ่มจากลองมานั่งทบทวนพฤติกรรม และความชอบของลูกกันก่อน มีกิจกรรมอะไรอื่นอีกบ้างที่เขาชอบทำ เช่น วาดภาพ ปั้นดินน้ำมัน ระบายสี หรือหากิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับคนอื่น เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคม เช่น เล่นกีฬา ไปสนามเด็กเล่น เข้าคอร์สเรียน จากนั้นจัดสรรเวลาให้ลูกใช้เวลากับแท็บเล็ตให้น้อยลง แน่นอนว่าในระยะแรกๆ ลูกจะไม่สามารถเลิกได้ทันที แต่เราสามารถปรับเวลาให้ลดลงทีละน้อยๆ และให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบแทน จนกระทั่งลูกไม่เรียกร้องหาแท็บเล็ตอีกต่อไป

นอกจากชักชวนด้วยกิจกรรมที่ลูกชอบแล้ว อาจจะหาแรงจูงใจเพื่อดึงลูกไปทำกิจกรรมดังกล่าว เช่น การให้รางวัล หรือท้าทายความสามารถของเขา นี่เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจให้ลูกเลิกเล่นแท็บเล็ตได้ดีทีเดียว และสำคัญที่สุด คือ… พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก อย่างน้อยที่สุดเมื่ออยู่กับลูกก็ไม่ควรเล่นมือถือบ่อยจนเกินไป ควรจะใช้เวลาที่อยู่กับลูกให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อพัฒนาการที่ดีของแก้วตาดวงใจของคุณเอง


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...