สาวๆ รู้หรือไม่? การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก..สำคัญกว่าที่คิด!

สาวๆ รู้หรือไม่? การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก..สำคัญกว่าที่คิด!

จากข้อมูลสถิติพบว่า ผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูก สูงถึงวันละ 14 คน ทั้งที่จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถรักษาได้หากตรวจพบความผิดปกติก่อนจะลุกลามร้ายแรง วันนี้ เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับ “การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก” ที่ผู้หญิงควรรู้มาฝากกัน..

การตรวจภายใน คืออะไร?

การตรวจภายใน หรือเรียกว่า “การตรวจพีวี” (PV, Per vaginal examination) เป็นการที่แพทย์ใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ด (Speculum) ต่อจากนั้นจะตรวจด้วยมือเพื่อประเมินความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานสตรีนั้นอีกครั้ง

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

คือ วิธีการตรวจหาความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ยังไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การตรวจที่นิยมในปัจจุบันมีอยู่สองวิธี ได้แก่ 

  1. การตรวจแป๊บสเมียร์แบบสามัญ (Conventional Pap smear) ซึ่งจะใช้ไม้ป้ายเซลล์ตัวอย่างลงบนแผ่นกระจกโดยตรง
  2. แบบแผ่นบาง (Thin layer) จะเก็บเซลล์เยื่อบุปากมดลูกที่กวาดได้ทั้งหมดจากเครื่องมือกวาดเซลล์ แล้วนำเซลล์ที่กวาดได้ใส่ไว้ในขวดน้ำยารักษาสภาพเซลล์ก่อน

การตรวจแป๊บสเมียร์แบบสามัญนั้น พบว่ามีความสามารถในการตรวจพบความผิดปกติที่ปากมดลูกได้ 50-60% ในขณะที่การตรวจแบบแผ่นบาง มีความสามารถในการตรวจพบความผิดปกติที่ปากมดลูกได้ 70-80% และในการตรวจแบบแผ่นบาง สามารถมีการตรวจหาเชื้อเอชพีวีได้เลย ซึ่งพบว่า…วิธีการตรวจหาเชื้อเอชพีวีร่วมกับการตรวจแป็ปสเมียร์แบบแผ่นบาง จะมีความสามารถในการตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูกได้สูงถึงเกือบ 100%

การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน

  • งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนตรวจภายใน 2 วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงช่วงที่กำลังมีประจำเดือน งดการเหน็บยาในช่องคลอดและงดสวนล้างช่องคลอดก่อนตรวจ

ขั้นตอนก่อนจะมีการตรวจภายใน

  • แพทย์จะมีการซักประวัติเกี่ยวกับความผิดปกติต่างๆทางนรีเวช เช่น การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ตกขาว ประวัติการคลอด ประจำเดือน การคุมกำเนิด ในการตรวจภายใน
  • แพทย์จะให้ผู้ป่วยไปปัสสาวะทิ้งให้เรียบร้อยก่อน เพราะการมีปัสสาวะสะสมในกระเพาะปัสสาวะ จะส่งผลให้แพทย์ตรวจคลำอวัยวะต่างๆในอุ้งเชิงกรานได้ไม่ชัดเจน
  • เปลี่ยนชุดพร้อมถอดกางเกงชั้นในให้เรียบร้อย
  • ขึ้นนอนบนเตียงที่มีขาหยั่งเพื่อรอตรวจ ควรแยกเข่าออกจากกันให้มาก เพื่อจะได้สะดวกแก่แพทย์ในการตรวจ
  • หลังจากแพทย์ใส่ถุงมือแล้ว แพทย์จะบอกผู้ป่วยว่า ต่อไปจะตรวจด้วยเครื่องมือ หลังจากถอดเครื่องมือ แพทย์จะตรวจด้วยมือ

การตรวจภายในควรทำเมื่อไหร่

  • สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ที่สุขภาพปกติดีทุกคน ควรต้องตรวจภายในทุกปี
  • มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือมีประจำเดือนผิดปกติ
  • มีอาการปวดท้องน้อยแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังเป็นๆหายๆ
  • ตกขาวผิดปกติ
  • คลำแล้วพบก้อนที่ท้องน้อย
  • ท้องอืด แน่นอึดอัดในท้อง น้ำหนักลด ผอมลง
บรรณานุกรม
Berek JS, Adams Hillard PJ. Initial assessment and communication. In :Berek, JS.editor. Berek& Novak’s Gynecology, 14thedition . 2007.
http://www.accessmedicine.com/content.aspx?aID=56690002 [2013,Feb6].

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...