แผลเรื้อรัง หายช้า อย่าชะล่าใจ! อาจมี “โรคมะเร็ง” ซ่อนอยู่

อาการแผลเรื้อรัง หายช้า อีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่โรคเรื้อรัง อย่าง เบาหวาน แต่เสี่ยงโรคร้าย อย่าง “โรคมะเร็ง” ได้เลยทีเดียว งานนี้ใครที่ชอบเป็นแผลบ่อยๆ แล้วปล่อยปละละเลย คงต้องมานั่งคิดใหม่ซะแล้ว

โรคมะเร็ง…ที่สังเกตได้จากอาการแผลเรื้อรัง

1. แผลเรื้อรัง…บริเวณช่องปาก ลิ้น อาจเสี่ยง “มะเร็งช่องปาก”
   อาการเบื้องต้น >> มีแผลลักษณะคล้ายร้อนใน…โดยเป็นเรื้อรังนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ หรือมีฝ้าขาวๆ บริเวณใต้ลิ้น เหงือก และเมื่อเป็นนานๆ รอยฝ้าจะนูนขึ้น
   ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง >> ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชอบทานอาหารร้อนจัดเกินไป ละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก แปรงฟันไม่สะอาด มีหินปูน หรือมักมีอาการอักเสบภายในช่องปากบ่อยๆ จนแผลอาจกลายเป็นมะเร็งได้
   วิธีการรักษา >> แนวทางหลักๆ คือ การผ่าตัด ซึ่งเป็นการพิจารณาเฉพาะรายบุคคล คำนึงถึงการรักษาที่สามารถตัดเนื้องอกได้หมดแบบครอบคลุม ทั้งในด้านความกว้าง ความลึก และอาจต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้องออก หรือร่วมกับการฉายรังสีรักษา ขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง
2. แผลเรื้อรัง…บริเวณผิวหนัง อาจเสี่ยง “มะเร็งผิวหนัง”
   อาการเบื้องต้น >> มีแผลเรื้อรัง หรือผื่นเรื้อรัง สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า พบได้ทั้งบริเวณใบหน้า แขน ขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว โดยอาการเบื้องต้นของมะเร็งผิวหนัง อาจอยู่ในรูปแบบของไฝ ปาน หรือตุ่มเนื้อ ทำให้หลายคนชะล่าใจ เพราะมองว่าเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ซึ่งความผิดปกตินี้..สามารถสังเกตได้ คือ

• ไฝ/ขี้แมลงวัน จะมีลักษณะโตเร็ว ขอบของไฝไม่เรียบ สีไม่สม่ำเสมอ อาจมีการตกสะเก็ดหรือมีอาการเลือดออกร่วมด้วย
• ตุ่มเนื้อชมพูหรือแดง จะมีลักษณะเป็นขุยหรือตกสะเก็ด ค่อยๆ ขยายขนาดไปเรื่อยๆ จนแผลแตก มีเลือดออกและกลายเป็นแผลเรื้อรัง

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง >> ผู้ที่ถูกแสงแดดมาก โดยเฉพาะแสงแดดจัด คนในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งผิวหนัง ผิวสัมผัสกับสารเคมีหรือรังสีสะสมเป็นเวลานาน หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV
วิธีการรักษา >> ทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการผ่าตัด ใช้ยาเคมีบำบัด ฉายแสง จี้ด้วยไฟฟ้า โดยอาจรักษาร่วมกับการขูดผิวหนัง หรือการผ่าตัดพิเศษ ที่เรียกว่า Mohs Surgery โดยวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และตำแหน่งของมะเร็ง