ช่วงหลังๆ ผู้ใหญ่ในบ้านเริ่มทยอยบ่นเจ็บเข่ากันมากขึ้น บางคนบอกว่าเดินแล้วมีเสียง บางคนรู้สึกข้อเข่าโคลงเคลงไม่มั่นคง หนักเข้าขาเริ่มจะโก่งผิดรูปมากจนผิดสังเกต แต่เราจะมีวิธีประเมินอย่างไร ว่าเมื่อไหร่ควรตัดสินใจผ่าตัด นี่คือ 6 ข้อบ่งชี้ที่ช่วยในการประเมินตัวเอง
1. ภาวะปวดหรือเจ็บข้อเข่าเรื้อรัง
โดยจะมีระยะนานกว่า 6 เดือน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ที่เคยเดินได้สะดวก ก็กลับมีอาการเดินลำบากขึ้น ทำให้ต้องใช้อุปกรณ์ในการช่วยเดิน อย่างไม้เท้า หรือไม้ค้ำยัน การขึ้น-ลงบันได หรือแม้แต่การลุกจากเก้าอี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ช่วยในการประเมินได้
2. ปวดได้ทุกเวลา ทั้งกลางวัน กลางคืน
ใครที่มีอาการปวดข้อเข่าในระดับปานกลางถึงรุนแรง แม้แต่ในขณะที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย และมีอาการได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน นั่นก็เป็นสัญญาณของข้อเข่าเสื่อมในระดับรุนแรง ที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
3. รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล
ในรายที่มีอาการข้อเข่าอักเสบเรื้อรัง ที่พยายามรักษาด้วยยาก็แล้ว ทำกายภาพบำบัดก็แล้ว รวมถึงการพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อเข่าในชีวิตประจำวันแล้วก็ไม่ดีขึ้น การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
4. ขาโก่งงอมาก ผิดรูปไปจากเดิม
เมื่อไหร่ที่สังเกตได้ชัดว่าขามีการโก่งงอผิดรูปของข้อเข่าไปจากเดิมมาก และดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้งานข้อเข่า นี่อาจถึงเวลาต้องจริงจังกับการผ่าตัดข้อเข่าซักที เพราะการที่ปล่อยให้ขาโก่งมาก โดยเปลี่ยนไปลงน้ำหนักที่อีกข้างมากเกินไป จะทำให้สุดท้ายกลายเป็นเกิดปัญหาหมดทั้งสองข้าง
5. มีความผิดปกติในการใช้งานข้อเข่า
ไม่ว่าจะเป็นภาวะข้อเข่าหลวมกว่าปกติ หรือข้อเข่ายึดติด ทำให้มีการเคลื่อนไหว หรืองอข้อเข่าได้น้อยลง หรือบางรายรู้สึกว่าเหยียดข้อเข่าได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม หากไม่รีบรักษาจะยิ่งส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ ไปด้วย
6. ไม่สามารถทนต่อภาวะความเจ็บปวดได้
หรือไม่สามารถทนต่อผลกระทบจากการใช้งานข้อเข่าที่เปลี่ยนไป รวมถึงมีข้อจำกัดในการทานยา หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการทานยาแก้ปวดข้อเข่าเป็นประจำ การผ่าตัดอาจเป็นทางออกที่คุณมองหา
แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการประเมินตัวเองเบื้องต้นเท่านั้น การพบแพทย์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด