ผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่ง ตัดทิ้ง ฟื้นตัวง่าย หายเร็ว

พญาไท 1

1 นาที

ศ. 27/03/2020

แชร์


Loading...
ผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่ง ตัดทิ้ง ฟื้นตัวง่าย หายเร็ว

ไส้ติ่งอักเสบอาจดูเหมือนเป็นโรคเล็กๆ ที่เราคุ้นชิน เป็นเมื่อไหร่ก็แค่เข้ารับการผ่าตัดก็หายได้ แต่รู้หรือไม่ว่าหากไม่ได้รับการรักษาหรือผ่าตัดอย่างทันท่วงทีก็มีโอกาสเสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้นหากปวดท้องโดยไม่รู้สาเหตุจึงควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ ทั้งนี้ตัวผู้ป่วยเองอาจสังเกตลักษณะอาการปวดท้องเบื้องต้น ว่าใกล้เคียงกับอาการของไส้ติ่งอักเสบหรือไม่ ได้ดังนี้

ลำดับอาการของไส้ติ่งอักเสบ

โดยทั่วไปแล้ว การปวดท้องไส้ติ่งอักเสบจะมีลำดับการปวด ดังนี้

  1. เริ่มปวดท้องโดยที่ไม่ทราบว่าปวดตรงไหนแน่นอน ในขั้นตอนนี้อย่าเพิ่งกินยาแก้ปวด เพราะจะทำให้สังเกตอาการได้ยากขึ้น
  2. ปวดต่อเนื่อง ปวดแรงขึ้นนาน 6 ชั่วโมง อาจปวดบิดเป็นพักๆ รอบสะดือ
  3. ปวดท้องคล้ายๆ ท้องเสีย มีไข้ต่ำ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
  4. อาการปวดจะย้ายมาที่ท้องน้อยข้างขวา แต่บางรายอาจปวดท้องน้อยข้างซ้าย ทั้งนี้ขึ้นกับว่าไส้ติ่งชี้ไปทางไหน หากปลายไส้ติ่งชี้ไปด้านหลังก็จะปวดหลัง ปวดเอว หรือปวดซี่โครงได้ และโดยมากจะมีอาการปวดเสียดตลอดเวลา
  5. เจ็บมากขึ้นเมื่อขยับตัว เวลาเดิน ไอ หรือจามก็จะเจ็บ หากกดท้องจะเจ็บบริเวณที่ปวดรุนแรงมาบางรายอาจปวดมากจนต้องนอนนิ่งๆ การปวดจะลุกลามจนรู้สึกทรมานมาก

 

ในเบื้องต้นหากยังไม่ถึงมือแพทย์ ผู้ป่วยอาจบรรเทาการปวดด้วยการนอนงอขา ตะแคงตัว หรือการเดินงอตัว แต่หากไส้ติ่งเริ่มติดเชื้อรุนแรง เน่าและแตกจนกลายเป็นฝีหนองก็จะปวดมากจนทนไม่ไหว และเมื่อเข้ารับการรักษาก็มีโอกาสติดเชื้อตามมาด้วยโรคแทรกซ้อน ดังนั้นเมื่อปวดท้องจึงควรเข้ารับการตรวจให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดการอักเสบรุนแรง

การรักษาไส้ติ่งด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery : MIS)

การผ่าตัดส่องกล้อง คือการผ่าตัดโดยการเจาะผิวหนังเป็นรูเล็กๆ เพื่อสอดกล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในช่องท้อง โดยรอยแผลจะมีขนาดเล็กประมาณ 1-2 ซม. ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยเห็นภาพที่ชัดเจนผ่านจอภาพ แต่การจะเลือกใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้องหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ความรุนแรง ความเสี่ยง โดยประเมินจากสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโรคที่เกิดในช่องท้องสามารถผ่าตัดส่องกล้องได้ รวมถึงโรคไส้ติ่งอักเสบด้วย

ผ่าตัดส่องกล้อง (MIS) ดีกว่าการผ่าตัดแบบเปิดอย่างไร ?

  • ขนาดของแผลเล็กเพียง 1-2 ซม. ในขณะที่การผ่าตัดแบบเปิดจะมีแผลกว้างถึง 12-20 ซม.
  • ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้เจ็บน้อย ปวยน้อย ลดการเสียเลือด
  • ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ทำให้ปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง
  • พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด ซึ่งเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเป็นสัปดาห์
  • แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจนด้วยกำลังขยายของกล้อง ทำให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ
  • ลดการเกิดพังผืดในช่องท้องจากการผ่าตัดแบบเปิด

หลังผ่าตัดไส้ติ่งควรกินอะไร

หลังผ่าตัดไส้ติ่ง ผู้ป่วยมักจะอ่อนเพลีย จึงควรกินอาหารที่กลืนง่ายไม่ต้องเคี้ยว เช่น ซุปใส น้ำผลไม้ เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานน้อยที่สุดจะได้ไม่กระทบต่อแผลผ่าตัด วันต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นอาหารน้ำข้นเพื่อทดสอบการทำงานของอวัยวะในช่องท้องว่าทำงานปกติดีหรือไม่ หลังจากนั้นจึงตามด้วยอาหารอ่อนๆ ที่มีกากน้อย ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มปลา โจ๊ก โดยเนื้อสัตว์และผักที่อยู่ในอาหารจะต้องทำให้นุ่ม กินผลไม้สุก ไม่ทานอาหารรสจัด งดดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่รักษาไม่ยาก เมื่อเริ่มปวดท้องหากทนได้ก็ยังไม่ควรรีบทานยาแก้ปวด เพื่อตัวผู้ป่วยเองจะได้สังเกตอาการ และช่วยให้แพทย์สามารถตรวจได้ว่าปวดบริเวณไหนและปวดลักษณะอย่างไร ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยและการรักษาโรค


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...