“ไม่พร้อมรบ”... เรื่องที่ผู้ชายต้องเตรียมพร้อมรับมือ

“ไม่พร้อมรบ”... เรื่องที่ผู้ชายต้องเตรียมพร้อมรับมือ

การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นปัญหาของผู้ชายที่เราเองอาจไม่มีความเข้าใจ เรื่องนี้ไม่เพียงลดทอนความมั่นใจ แต่ยังบั่นทอนความรู้สึกคุณพ่อบ้าน จนอาจกลายเป็นปัญหาครอบครัวเลยก็ว่าได้… วันนี้เรามาฟังคุณหมอวิโรจน์ รักษากุล จากคลินิกทางเดินปัสสาวะทั่วไป โรงพยาบาล พญาไท 3 อธิบายถึงปัญหานี้กันดีกว่า

แบบไหน เรียกว่า “เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”

คุณหมอวิโรจน์ อธิบายว่า การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอีดี (ED/Erectile dysfunction) คือลักษณะของการที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่ตึงตัวพอจะมีเพศสัมพันธ์หรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ในแต่ละคนจะมีรายละเอียดอาการต่างกัน บางคนไม่แข็งตัว หรือบางคนแข็งตัวระยะสั้นมาก อาการเหล่านี้พบได้มากในผู้สูงอายุ และบางกรณีสามารถพบได้ในชายทุกวัย

สาเหตุนี้ไง ทำให้เกิดความผิดปกติ

ที่มาหลักของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย คุณหมอวิโรจน์ บอกว่า แบ่งได้เป็น 2 สาเหตุ คือ ด้านร่างกายและจิตใจ

    • ด้านร่างกาย พบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อมได้ตามวัยจึงเป็นสาเหตุของความเสื่อมสรรถภาพทางเพศขึ้นได้ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น

    • โรคประจำตัว : เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือด ซึ่งทำให้หลอดเลือดมีความผิดปกติ หากเส้นเลือดเกิดปัญหาจากสาเหตุของโรคก็ย่อมทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ไม่ดีทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

    • ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง : ส่งผลทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และด้านสังคม ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนต่ำจะกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย ไม่กระฉับกระเฉง เฉื่อยชา มองโลกในแง่ร้าย ความต้องการทางเพศลดลง อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่เต็มที่

    • ความผิดปกติของระบบประสาท : การแข็งตัวของอวัยวะเพศ เกิดจากการสูบฉีดเลือดเข้าไปในเนื้อเยื่อภายในอวัยวะเพศ ที่เกิดเพราะถูกกระตุ้นจากการเร้าอารมณ์ทางเพศ เมื่อสัญญาณถูกส่งจากสมองไปยังเส้นประสาทในอวัยวะเพศชาย แต่ถ้าระบบประสาทเกิดความิดปกติ การส่งสัญญาณนี้ก็ไม่สามารถทำได้

    • การใช้ยา : การใช้ยาบางชนิด ส่งผลให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

    • ด้านจิตใจเกิดจากโรคหรือภาวะทางจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า ความเครียด ความวิตกกังวล เป็นต้น

รักษาอย่างไร ให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง

แพทย์จะซักประวัติ ตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือด การทำงานของตับ ไต ระดับฮอร์โมนเพศชาย เมื่อแพทย์วินิจฉัยจนทราบสาเหตุแล้ว จะรักษาโดยการให้ยารับประทาน รวมถึงใช้อุปกรณ์เข้าช่วย อย่างปั๊มสุญญากาศ หากทำเช่นนี้แล้วผลการรักษายังไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็จะใช้ยาฉีดหรือใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน

คลินิกทางเดินปัสสาวะทั่วไป 
ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ
รพ.พญาไท 3 ชั้น 19
โทร. 0-2467-1111 ต่อ 1960 – 1961 

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...