จบปัญหาต่อมทอนซิล... กับ 2 นวัตกรรมการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด

พญาไท 3

1 นาที

พ. 20/05/2020

แชร์


Loading...
จบปัญหาต่อมทอนซิล... กับ 2 นวัตกรรมการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด

“ต่อมทอนซิลอักเสบ” แม้อาการจะไม่รุนแรง แต่ก็สร้างความรำคาญและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กลืนน้ำลายหรืออาหารลำบาก บางคนอาจมีอาการปวดหู ปวดท้อง อาเจียนร่วมด้วย… บางคนต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังจนต้องผ่าตัด ซึ่งนวัตกรรมการแพทย์ในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก วันนี้ นพ.อุทัย ประภามณฑล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม ศีรษะ ลำคอ หลอดลม และกล่องเสียง ศูนย์หู คอ จมูก โรงพยาบาลพญาไท 3 จะแนะนำเทคนิคการผ่าตัดทอนซิลโดยการใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency tonsillectomy)

 

เช็กลิสต์! หากมีอาการแบบนี้… ผ่าตัดคือทางออกที่ดีที่สุด

คุณหมออุทัย อธิบายว่า การผ่าตัดทอนซิลเป็นการผ่าตัดเอาทอนซิลออกซึ่งจะทำกันก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้

  • ทอนซิลอักเสบเรื้อรังเป็นๆหายๆ (6 ครั้งต่อปี, หรือ 5 ครั้งต่อปี 2 ปีติดต่อกัน, หรือ 3 ครั้งต่อปี 3 ปีติดต่อกัน )
  • การเกิดฝีรอบๆ ต่อมทอนซิล หลังรักษาอาการฝีรอบๆ ทอนซิลหายแล้ว ประมาณ 1-2 เดือน ค่อยมาผ่าตัดทอนซิลออก
  • สงสัยว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมทอนซิล
  • ทอนซิลมีขนาดใหญ่มากจนทำให้เกิดอาการอุดกั้นทางเดินหายใจหรือนอนกรน

ส่วนข้อห้ามในการผ่าตัดทอนซิล คือ ขณะที่ยังมีอาการทอนซิลอักเสบอยู่ และปัญหาใหญ่ของการผ่าตัดต่อมทอนซิลคือการเจ็บแผลและเลือดออกหลังผ่าตัด ที่พบประมาณ 2-5% ทำให้ผู้ป่วยต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลนาน กินอาหารและกลืนลำบาก เนื่องจากเจ็บแผล

 

Radiofrequency tonsillectomy นวัตกรรมการผ่าตัดต่อมทอนซิล ด้วยคลื่นวิทยุ

คุณหมออุทัย อธิบายถึงนวัตกรรมนี้ว่า เป็นการใช้คลื่นวิทยุในการผ่าตัด ซึ่งคลื่นวิทยุนี้จะเปลี่ยนเป็นความร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียส  ใช้ในการตัดเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลผ่าตัดบาดเจ็บลดลงกว่าการผ่าตัดแบบเก่า และยังสามารถห้ามเลือดในขณะผ่าตัดได้

 

ข้อดีของการผ่าตัดโดยใช้คลื่นวิทยุ คือ…

  • การผ่าตัดใช้เวลาสั้นลง
  • เสียเลือดน้อย ไม่ต้องใช้ไหมเย็บแผลในขณะผ่าตัด
  • อาการเจ็บแผลหลังผ่าตัดลดลง
  • ระยะเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง (โดยทั่วไปนอนโรงพยาบาลประมาณ 1 วัน หลังผ่าตัดเสร็จ)

ตัดเนื้อเยื่อและห้ามเลือดได้ในคราวเดียว… ด้วยเทคนิค HS

อีกทางเลือกหนึ่งของคนไข้คือ การผ่าตัดทอนซิลโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Harmonic scalpel หรือ HS) ซึ่งคุณหมออุทัย อธิบายว่า Harmonic Scalpel เป็นเครื่องมือตัดเนื้อเยื่อและห้ามเลือดไปในตัวพร้อมกัน โดยอาศัยคลื่นความถี่ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในระดับความถี่ 55,000 Hz. คลื่นความถี่นี้จะเปลี่ยนเป็นความร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถจี้ห้ามเลือด และตัดเนื้อเยื่อบริเวณที่เครื่องมือจับหรือกดสัมผัสได้ โดยไม่เกิดการไหม้เป็นบริเวณกว้าง หัวจี้สามารถใช้เลาะและตัด (Dissection) จับเนื้อเยื่อ (Grasping) และสามารถจี้ตัดเส้นเลือด (Cut and Coagulation) ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 มิลลิเมตรได้

ข้อดีของเทคนิค HS ในการผ่าตัดทอนซิลได้แก่

  • สามารถตัดเนื้อเยื่อและห้ามเลือดภายในเวลาเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเย็บผูกหลอดเลือดโดยใช้ไหม ลดโอกาสการระคายเคืองคอหลังผ่าตัดได้
  • การผ่าตัดใช้เวลาสั้นลง โดยทั่วไปใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที ทำให้ลดระยะเวลาในการดมยาลงได้ จึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการดมยาสลบ
  • เสียเลือดระหว่างผ่าตัดน้อย ประมาณ 0-2 ซีซี
  • อาการเจ็บแผลหลังผ่าตัดน้อยกว่าวิธีอื่นๆ โดยเฉพาะช่วง 3-7 วันหลังผ่าตัด
  • ระยะเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง โดยทั่วไปหลังผ่าตัดโดยวิธีนี้จะนอนโรงพยาบาลประมาณ 1 วัน หลังผ่าตัดเสร็จ สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ อย่าปล่อยให้ปัญหาต่อมทอนซิลกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่รบกวนคุณภาพชีวิตของคุณและคนใกล้ชิด หากมีปัญหาควรปรึกษาแพทย์เพื่อรีบแก้ไขจะดีที่สุด


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...
Loading...