อย่าเพิ่งตกใจ...มาเคลียร์ข้อสงสัยเรื่อง “พิษสุนัขบ้า” และการฉีดวัคซีนป้องกัน

อย่าเพิ่งตกใจ...มาเคลียร์ข้อสงสัยเรื่อง “พิษสุนัขบ้า” และการฉีดวัคซีนป้องกัน

“พิษสุนัขบ้า” เป็นโรคร้ายแรงที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง พบได้ตลอดปี โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่พบมากเป็นพิเศษ เพราะสัตว์จะมีความหงุดหงิดมากกว่าปกติ ทำให้เกิดการข่วนหรือกัดผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมากขึ้น

 

โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากอะไร ?

เกิดจากเชื้อไวรัส เรบีส์ ไวรัส (Rabies Virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น คน สุนัข แมว ลิง ชะนี กระรอก ค้างคาว โรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะทำให้มีอาการทางประสาท โดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง และถ้าเป็นแล้วจะเสียชีวิตทุกราย

 

สุนัขกัด แมวข่วน ถูกเลีย ต้องระวัง! โรคพิษสุนัขบ้า

คนส่วนใหญ่ได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าจากน้ำลายของสัตว์ที่ป่วย โดยอาจผ่านการถูกกัด ข่วน หรือเลีย ทำให้เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล รอยถลอก หรือน้ำลายสัตว์กระเด็นเข้าทางตา ปาก หรือผิวหนังที่มีบาดแผลก็ทำให้ติดเชื้อได้

 

ทำอย่างไรเมื่อถูกสัตว์ข่วน เลีย กัด ?

  • รีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด หากมีเลือดออกควรปล่อยให้เลือดไหลออก อย่าบีบหรือเค้นแผล เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปส่วนอื่น
  • เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ควรใช้โพวีโดนไอโอดีน (povidone iodine) หรือฮิบิเทนในน้ำ (hibitane in water) ถ้าไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ไม่ควรปิดปากแผลยกเว้นว่าเลือดออกมากหรือแผลใหญ่มาก
  • จดจำลักษณะของสัตว์ เพื่อสืบหาเจ้าของและค้นหาประวัติความเสี่ยงการเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
  • ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าภายใน 2 วัน และฉีดวัคซีนตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด
  • กักตัวสัตว์ไว้เพื่อสังเกตอาการ 10 วัน โดยให้น้ำและอาหารตามปกติ หากตายให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่

 

สังเกตให้ดี อาการเหล่านี้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้ว

  • อาการเริ่มแรก

ผู้ป่วยจะมีการอักเสบที่สมองและเยื่อสมอง ในระยะ 2-3 วันแรก โดยอาจปวดเมื่อยตัว มีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คันหรือปวดแสบบริเวณที่ถูกกัด ทั้งๆ ที่แผลอาจหายเป็นปกติแล้ว

  • อาการทางระบบประสาท

จะเริ่มหงุดหงิด กระสับกระส่าย อาละวาด โดยจะมีอาการเหล่านี้ประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจะเริ่มซึมเศร้า และมีอาการกลัว ทั้งไม่ชอบแสงสว่าง ลม เสียงดัง กลัวน้ำ ซึ่งอาจพบอย่างใดอย่างหนึ่ง มีน้ำลายไหล กลืนอาหารลำบากและเจ็บ เพราะเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน แต่ยังพูดจารู้เรื่อง

  • ระยะสุดท้าย

มีอาการเอะอะมากขึ้น สงบสลับกับชัก บางรายอาจเป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด เพราะส่วนที่สำคัญของสมองถูกทำลายไปหมด โดยเฉลี่ยจะเสียชีวิตใน 2-6 วัน เนื่องจากอัมพาตของกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินหายใจ เพราะโรคลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

 

ป้องกันตัวเองด้วยการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนับบ้า

เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการต้านโรคพิษสุนัขบ้า เราสามารถป้องกันตัวเองได้ ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันแบบล่วงหน้าโดยฉีดเพียง 3 เข็มภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งสามารถฉีดได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยหลังจากฉีดวัคซีนแล้วหากถูกสัตว์กัดก็ไม่จำเป็นต้องฉีดเซรุ่มอีก เพียงแค่ฉีดวัคซีนกระตุ้น 1-2 เข็มเท่านั้น ร่างกายก็จะมีภูมิต้านทานที่สามารถป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างได้ผล

 

วัคซีนป้องกันได้ 100% หรือไม่ ?

แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่โอกาสในการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็ยังมีอยู่หากได้รับเชื้อเป็นจำนวนมาก หรือถูกกัดบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมากก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดีกว่า


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...