หัด คางทูม หัดเยอรมัน 3 โรคที่ติดต่อง๊าย…ง่าย แต่อันตรายถึงชีวิต! วัคซีน MMR (Measles-mumps-rubella vaccine) คือเกราะป้องกันโรค ที่ช่วยให้คุณสบายใจหายห่วง เพราะวัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันทั้ง 3 โรค เมื่อได้รับวัคซีนครบถ้วนตามกำหนด ถ้าคุณสามารถป้องกันโรคนี้ได้..แล้วทำไมต้องรอให้โรคลุกลามด้วยล่ะ?
รู้จักอาการของ 3 โรคร้าย..ก่อนสายเกิน!
- โรคหัด (Measles หรือ Rubeola) เกิดจากเชื้อไวรัสรูบิโอลา ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่ไอ จาม หายใจรดกัน หรือใช้สิ่งของร่วมกัน พบบ่อยในเด็กที่อายุระหว่าง 2 ถึง 14 ปี ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่รวมกันหนาแน่น
- โรคคางทูม (Mumps) เกิดจากเชื้อไวรัสคางทูม ซึ่งมีผลต่อต่อมน้ำลาย และบางครั้งส่งผลต่อเนื้อเยื่อประสาท แพร่กระจายได้โดยละอองเสมหะและการสัมผัสกับน้ำลายของผู้ที่มีเชื้อ
- โรคหัดเยอรมัน (Rubella) เกิดจากเชื้อไวรัสรูเบลล่า มีชีวิตอยู่ในร่างกายคนได้ถึง 1 ปี มักระบาดในสถานที่แออัด โดยเชื้อจะอยู่ในน้ำมูก และน้ำลาย ติดต่อกันได้โดยการไอ จาม หรือสัมผัสน้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อหัดเยอรมันอยู่
อาการ ผู้ที่ได้รับเชื้อระยะแรกจะมีอาการเหนื่อยเมื่อยล้า มีไข้ ไอ ตาแดง มีจุดสีขาวขึ้นในปาก ตามมาด้วยการมีผื่นสีแดงขึ้นตามผิวหนัง หลังจากนั้น ผื่นมักจะเริ่มขึ้นจากใบหน้าลงไปที่ลำตัว ในกรณีที่รุนแรงอาจมีผลต่อหูชั้นกลาง ปอดและสมอง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้
อาการ ปวดจากการอักเสบบวมของต่อมน้ำลาย มักเป็นที่บริเวณแก้ม มีไข้ บางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น หูหนวก หรืออาการติดเชื้อของสมอง ในเด็กวัยรุ่นอาจเกิดการติดเชื้อของลูกอัณฑะหรือรังไข่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์
อาการ ผู้ติดเชื้อส่วนมากใช้เวลาประมาณ 14 ถึง 21 วันจึงเริ่มแสดงอาการ แต่หากสตรีมีครรภ์ติดเชื้อในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์อย่างมาก ทำให้เด็กที่เกิดมาพิการ เช่น สมองฝ่อ หูหนวก ต้อกระจกตา โรคหัวใจ เป็นต้น
ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีน MMR
- เด็กไทยทุกคนเด็กควรได้รับ 2 เข็ม ขณะอายุ12 – 15 เดือน และเข็มที่ 2 ขณะอายุ 4 – 6 ขวบ
- หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนที่ไม่เคยเป็นโรคนี้และยังไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดนี้มาก่อน (ควรคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือนหลังรับวัคซีน)
- นักเรียน นักศึกษา ที่ไม่เคยเป็นโรคนี้และยังไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดนี้มาก่อน และกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น อังกฤษ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ให้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน
- บุคคลทางการแพทย์ ทหารที่เริ่มเข้าทำงาน
บุคคลเหล่านี้ “ไม่ควร” ฉีดวัคซีน MMR นะรู้ไหม?
- ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีน หรือยานีโอมัยซิน เจลาติน อย่างรุนแรง
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับยาเคมีบำบัด ฉายแสง
- ผู้ป่วย HIV ที่มีอาการเต็มขั้นหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง (สามารถรับวัคซีนได้หากร่างกายแข็งแรง)
- ผู้ที่ได้รับเลือด ผลิตภัณฑ์ของเลือด หรืออิมมูโนโกลบูลิน ควรปรึกษาแพทย์ และผู้มีอาการป่วยควรเว้นระยะการให้วัคซีนออกไป
หลังรับวัคซีน MMR อาจมีอาการข้างเคียงได้
เพราะหลังรับวัคซีน อาจมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด ให้ประคบด้วยผ้าเย็น หลังรับวัคซีน 6-12 วัน อาจมีไข้ ผื่น ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน ในผู้ใหญ่มักมีอาการปวดข้อ แต่สามารถหายได้เองใน 1-3 สัปดาห์ แต่หากรับวัคซีนแล้วเกิดอาการข้างเคียงรุนแรง ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์อายุรกรรม และศูนย์วัคซีน ชั้น 1 อาคาร A โรงพยาบาลพญาไท 2
โทร. 02-617-2444 ต่อ 4104, 4106 Phyathai Call Center 1772