ในการผ่าตัดมดลูก นอกจากข้อมูลการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดที่ผู้ป่วยต้องรู้ “การดูแลตนเองช่วงพักฟื้น” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยก็มักมีคำถามในใจ เช่น
- ตัดมดลูกแล้วจะมีเพศสัมพันธ์ได้เลยไหม?
- ออกกำลังกายเหมือนเดิมได้เลยหรือเปล่า?
- แล้วถ้ามีเลือดออกล่ะ…จะอันตรายไหม? และนี่คือ…
วิธีการดูแลตนเองหลังผ่าตัดมดลูกเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนกับพฤติกรรมที่ควรเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ โดยหากเป็นการผ่าตัดถุงน้ำเล็กๆ น้อยๆ ให้งด 1-2 เดือน แต่ถ้าผ่าตัดมดลูกให้งด 2-3 เดือน เพื่อป้องกันภาวะแผลแยกและการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างเข้าไปในช่องคลอด เพราะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงภาวะท้องผูก เพราะการใช้แรงเบ่งเยอะจะทำให้เกิดแรงดันที่แผล ควรดื่มน้ำสะอาด ทานผักผลไม้และอาหารที่ย่อยง่าย เพื่อให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายได้คล่องขึ้น
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ในช่วงระยะพักฟื้น 6 สัปดาห์แรก โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิก หรือยกน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงการทำงานบ้านหนักๆ การทำสวน การอุ้มเด็กเล็ก หรือยกของหนักเกิน 10 กิโลกรัม เพราะทำให้เกิดแรงดันในผนังช่องคลอด เสี่ยงต่อการปริหรืออักเสบได้ โดยงดเว้นกิจกรรมเหล่านี้ประมาณ 2 เดือนหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการขับขี่รถ เพราะหลังผ่าตัด..ผู้ป่วยมักทานยาระงับปวดที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน รวมทั้งความสามารถในการหยุดรถภาวะคับขันของผู้ป่วยจะลดลง ดังนั้น ควรสอบถามแพทย์ผู้ดูแลก่อนกลับมาขับขี่อีกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ลำพังคนเดียว ในกรณีที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องตัดมดลูกออกทั้งที่ยังต้องการมีบุตร เพราะมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าได้ง่าย
อาการข้างเคียงหลังผ่าตัดมดลูกที่ควรรีบไปพบแพทย์
- รู้สึกหนาวสั่น มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
- ปวดท้องมากขึ้น หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจมีลิ่มเลือดจับตัวเป็นก้อนร่วมด้วย
- มีน้ำใสๆ หรืออุจจาระไหลออกมาทางช่องคลอด
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
- มีอาการเจ็บ บวม หรือมีหนองออกมาทางแผล