พ่อแม่ควรรู้...วิธีรับมือ “โรคมือ เท้า ปาก” (Hand Foot Mouth Disease)

พ่อแม่ควรรู้...วิธีรับมือ “โรคมือ เท้า ปาก” (Hand Foot Mouth Disease)

โรคมือเท้าปาก ในเด็กเล็กไม่ใช่โรคใหม่ เพราะในประเทศไทยเองก็พบได้อยู่เสมอ แต่ที่ไม่เป็นข่าวอาจเพราะส่วนใหญ่แล้วอาการมักไม่รุนแรง และไม่ทำให้เสียชีวิตได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามโรคมือเท้าปากก็อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่ ควรรู้จักวิธีสังเกต และรู้ วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคมือเท้าปาก ด้วยจะดีกว่า วันนี้เราจึงนำความรู้เกี่ยวกับโรคมื้อเท้าปากมาฝากกัน

 

โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?

โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 (EV71) Coxasackie Virus มีระยะฟักตัว 3-6 วัน หลังได้รับเชื้อ จากนั้นจึงเริ่มมีอาการ กลุ่มที่มีความเสี่ยง คือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี

 

โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อกันได้อย่างไร?

โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายมาก อัตราการติดต่อจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งเกือบร้อยละร้อย โดยเฉพาะในเด็ก และช่วงเวลาที่มีการระบาด

  • ทางน้ำลาย ได้รับเชื้อจากแผลในปาก
  • การได้รับเชื้อเข้าทางปาก จากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสมือเท้าปาก
  • เชื้อจะมีอยู่หลังจากมีอาการ โดยเชื้อจะอยู่ในอุจจาระหลายสัปดาห์หรืออาจนานหลายเดือน

 

ลักษณะอาการโรคมือเท้าปาก

ในเด็กจะมีไข้สูง 3-4 วัน และเริ่มมีตุ่มน้ำใส (Vesicle) ขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ปาก ลิ้น เหงือก ในวันแรกของไข้ มีอาการเจ็บร่วมด้วย ทำให้ทานอาหารไม่ได้ มีน้ำลายไหล และอาจมีผื่นขึ้นตามขาทั้ง 2 ข้าง อาการมักจะหายเองภายใน 5-7 วัน

ในผู้ใหญ่ ลักษณะอาการจะแตกต่างจากเด็ก คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มีแผลในปาก อาจมีผื่นขึ้นหรือไม่มีก็ได้ ส่วนใหญ่ไข้จะลดลงและหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ แผลในปากจะดีขึ้นเอง ตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าจะค่อยๆ หายไป โดยโรคแทรกซ้อนที่พบได้คือ เยื่อหุ้มสมอง หรือเนื้อสมองอักเสบ นอกจากนี้อาจเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้

 

หากมีอาการเหล่านี้อาจเป็นโรคมือเท้าปาก ควรรีบไปพบแพทย์

  • มีไข้สูง 39 องศาเซลเซียส หรือ ไข้สูงมากกว่า 2 วัน
  • เหนื่อย หอบ
  • ซึม หลับทั้งวัน ปลุกตื่นยาก
  • อาเจียนบ่อย มากกว่า 2-3 ครั้ง
  • อาการแขนขาอ่อนแรง
  • มีอาการผวาหรือกระตุก จากเดิมไม่เคยมีอาการมาก่อน

 

แนวทางการรักษาโรคมือ เท้า ปาก

โดยทั่วไปอาการของโรคมือเท้าปากจะดีขึ้นเอง แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ไข้ แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ เด็กบางคนรับประทานอาหารและน้ำไม่ได้ เพราะเจ็บแผลในปาก ไม่ยอมกลืนน้ำลาย และไม่ยอมให้ทำความสะอาดในปาก ซึ่งเป็นผลให้แผลหายช้า หรือเป็นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน แพทย์มักจะให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดหากทานอาหารไม่ได้ และควรจะต้องทำความสะอาดช่องปากเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น และให้ยาปฏิชีวนะถ้าจำเป็น ตลอดจนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้…

  • สร้างสุขนิสัยให้ดี เช่น หมั่นล้างมือทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมถึงก่อนและหลังใช้ห้องน้ำ
  • รับประทานอาหารที่สะอาด สดใหม่ และใช้ช้อนกลางตักเสมอ
  • สำหรับผู้ป่วย ควรใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือเมื่อสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่ง โดยเฉพาะน้ำมูก น้ำลาย

 

การป้องกันโรคมือเท้าปากด้วยการฉีดวัคซีน

โรคมือเท้าปากสามารถป้องกันและลดเสี่ยงได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตมาเพื่อต้านเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 โดยเฉพาะ เพราะเป็นเชื้อตัวสำคัญที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้ โดยที่ผ่านมาพบว่า วัคซีนชนิดนี้ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง และมีความปลอดภัยสูง สำหรับอายุที่แนะนำในการฉีดวัคซีนมือเท้าปาก คือ เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี

 

ดูแลสุขอนามัย เพื่อป้องกันการติดโรคมือเท้าปาก

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การล้างมือบ่อยๆ การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การทำความสะอาดของเล่นและเครื่องใช้ หลีกเลี่ยงการนำบุตรหลานไปในสถานที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับโรคได้ เช่น สนามเด็กเล่น ตลาด หรือแหล่งที่มีคนแออัด


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...