เคยได้ยินไหมว่า ‘รอยยิ้มคือหน้าต่างของหัวใจ’ นั่นก็เป็นเพราะการยิ้มสามารถบ่งบอกได้ถึงอารมณ์และความรู้สึก เมื่อเรามีรอยยิ้มที่มั่นใจก็ทำให้เราดูมีเสน่ห์ไปด้วย ใครที่สูญเสียฟันจนขาดความมั่นใจตอนนี้ก็ถอนหายใจโล่งอกได้แล้ว!! เพราะเรามีวัสดุคุณภาพสูงที่จะมาช่วยฟื้นคืนชีพฟันของคุณให้กลับมาสวยงามได้เหมือนเดิม ซึ่งนั่นก็คือการทำ “รากฟันเทียม”

“รากฟันเทียม” ทางเลือกสำหรับคนสูญเสียฟัน

รากฟันเทียม คือรากฟันใหม่ที่ทดแทนฟันที่สูญเสียไป เป็นการใช้วัสดุทดแทนที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุดที่ทำจากโลหะไททาเนียมไปฝังลงในตำแหน่งของขากรรไกรภายใต้เหงือก โดยรากเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรเมื่อทั้งสองอย่างประสานกันอย่างสนิทแล้ว และจะให้เกิดการรองรับฟัน โดยฟันปลอมหรือที่ยึดฟันปลอมที่ทำงานร่วมกับรากเทียมจะไม่เลื่อนหรือลื่นออกจากจุดที่ต้องการ ซึ่งการฝังรากเทียมจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมหรือการทำฟันปลอมแบบธรรมดา

รากเทียมเหมาะกับใคร ?

การทำรากเทียมนั้นสามารถทำได้กับทุกคนที่สูญเสียฟันแท้ไป โดยไม่จำกัดอายุ แม้ผู้สูงอายุก็สามารถทำได้ ซึ่งการทำรากเทียมไม่เพียงแต่จะช่วยให้ฟันกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมเท่านั้น แต่ยังทำให้การพูด การเคี้ยวอาหารดีขึ้นอีกด้วย

3 ส่วนสำคัญของรากเทียม

รากเทียม (Fixture) ทำมาจากโลหะไทเทเนียม มีรูปร่างคล้ายรากฟัน จะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร สามารถยึดติดกับกระดุกขากรรไกรได้โดยไม่ทำให้เกิดการอักเสบ และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
แกนครอบฟัน (Abutment) เป็นส่วนที่ต่อขึ้นมาจากรากเทียม เพื่อรองรับครอบฟัน
ครอบฟัน (Crown) เป็นส่วนที่เป็นตัวฟัน ทำจากโลหะ หรือเซรามิค มีรูปร่างลักษณะเหมือนฟันธรรมชาติรากเทียมสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติ สามารถทำได้กับทุกคนที่สูญเสียฟันแท้ไป

ขั้นตอนการทำรากเทียม

ทันตแพทย์จะทำการตรวจและ X- Ray เพื่อประเมินสภาพของกระดูกขากรรไกรที่อยู่บนสันเหงือก ว่าเพียงพอต่อการฝังรากเทียมหรือไม่หากไม่เพียงพอ อาจต้องมีการปลูกกระดูกเพื่อให้มีปริมาณกระดูกที่เพียงพอต่อการรองรับรากเทียม
จากนั้นจะทำการฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกรและรอประมาณ 3 -4 เดือน ให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกร และ มีความแข็งแรงเพียงพอ
ทำการใส่ตัวทำร่องเหงือก (Gingival former) เพื่อสร้างเหงือกรอบๆ ตัวฟัน และรอประมาณ 10 – 14 วัน เพื่อให้ได้รูปร่างเหงือกที่เหมาะสม สำหรับขั้นตอนนี้ หากในวันที่ฝังรากเทียมทันตแพทย์ประเมินแล้วว่ารากเทียมมีความแข็งแรงดี อาจจะพิจารณาใส่ตัวทำร่องเหงือก (Gingival former) ในคราวเดียวกับที่ฝังรากเทียมเลย
ทำการต่อแกนครอบฟันบนรากเทียม จากนั้นจะทำการพิมพ์ปาก และนำแบบจำลองส่งทำครอบฟันต่อไป
หลังจากนั้นประมาณ 10 – 14 ทันตแพทย์จะทำการใส่ครอบฟันซึ่งมีรูปร่างสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูแลตัวเองอย่างไร ? หลังทำรากฟันเทียม

จริงๆ แล้วการดูแลนั้นเหมือนกับการดูแลสุขภาพของช่องปากและฟันทั่วไป เพียงแค่เพิ่มการทำความสะอาดในบริเวณที่ทำและเหงือกโดยรอบเป็นพิเศษ ใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย เพื่อช่วยขจัดเศษอาหารได้ดี และควรตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

ข้อดีของรากเทียม

ความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
ไม่จำเป็นต้องกรอเนื้อฟันข้างเคียง เมื่อเทียบกับการทำสะพานฟัน
รากเทียมมีการฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร จึงทำให้มีการคงสภาพของกระดูกขากรรไกร เกิดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
ใช้แทนการทำสะพานฟัน โดยไม่ต้องเสียเนื้อฟันข้างเคียง
ไม่ทำให้กระดูกในบริเวณที่สูญเสียฟัน ยุบบุบไป
สามารถใช้ได้ดี สะดวกและปลอดภัยกว่าฟันปลอมถอดได้

ข้อเสียของรากเทียม

ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 3-4 เดือน เพื่อรอระยะเวลาให้กระดูกมาเกาะติดกับรากเทียมสมบูรณ์ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน

ฟันสวย แข็งแรง เป็นธรรมชาติด้วย “รากฟันเทียม”