แม้ว่ากระดูกพรุนจะเป็นโรคฮิตในวัยสูงอายุ แต่องค์การอนามัยโลกมีรายงานว่า…สถิติผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนทั่วโลกเพิ่มขึ้นและมีอายุเฉลี่ยน้อยลงเรื่อยๆ หากคุณชอบมีอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดสะโพก หรือปวดเข่า อยู่บ่อยๆ การตรวจมวลกระดูกโดยไม่ต้องรอให้สูงวัย ตลอดจน “ออกกำลังกาย” เป็นประจำ…คืออีกแนวทางปฏิบัติที่ช่วยป้องกันคุณจาก “โรคกระดูกพรุน” ในอนาคตได้!!
เมื่อมวลกระดูกลดลง…จึงเสี่ยงต่อ “ภาวะกระดูกพรุน”
เพราะกระดูกของคนเราจะมีทั้งความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทานต่อแรงกดดันและแรงกระแทก ในขณะที่ “ภาวะกระดูกพรุน” คือ ภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดน้อยลง ส่งผลให้กระดูกมีความแข็งแรงลดลงไปด้วย โดยปกติความหนาแน่นของมวลกระดูกจะสูงสุดเมื่ออายุ 30 ปี และค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ภาวะกระดูกพรุนมีโอกาสเกิดขึ้นในคนสูงอายุมากกว่านั่นเอง
คนกลุ่มไหน…ไม่ต้อง(รอ)สูงวัย ก็ควรมาตรวจมวลกระดูก
ในคนที่อายุยังไม่มาก..แต่มีพฤติกรรมทำลายมวลกระดูก ไม่ว่าจะเป็นชอบดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ น้ำหนักตัวน้อยเกิน ไม่ชอบออกกำลังกาย หรือมีการใช้ยารักษาโรคบางกลุ่ม เช่น สเตียรอยด์ ยาละลายลิ่มเลือด หรือ ยารักษาเบาหวาน คนกลุ่มนี้อาจไม่ต้องรอให้สูงวัย..ก็ควรมาตรวจเช็คมวลกระดูกเพื่อค้นหาความเสี่ยงกระดูกพรุนในอนาคต
“มวลกระดูก” เพิ่มได้…ด้วยการออกกำลังกาย!
- Weight Bearing Exercise หรือการออกกำลังกายโดยใช้เท้าและขา หรือมือและแขน ในการรับน้ำหนักของตัวเอง เช่น การเต้นแอโรบิก ฟุตบอล บาสเก็ตบอล แบดมินตัน วิ่ง หรือการเดิน ซึ่งการออกกำลังกายวิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้กระดูกแข็งแรง แต่ยังส่งผลดีต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย
- Strengthening / Resistance Exercise หรือการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักหรือแรงต้านจากร่างกายของเราเอง พร้อมกับใช้แรงต้านหรือน้ำหนักจากภายนอก เช่น การยกน้ำหนัก (Weight Training) ที่เราพบเห็นบ่อยๆ ตามฟิตเนส ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้จะส่งเสริมให้กระดูกได้ทำงานมากที่สุด..และช่วยเพิ่มมวลกระดูกได้มากกว่าวิธีแรก แต่การออกกำลังกายลักษณะนี้อาจเหมาะกับหนุ่มสาววัยรุ่นหรือวัยทำงานมากกว่าวัยสูงอายุ
เพราะ “กระดูกพรุน” คือภัยเงียบที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนออกกำลังกายโดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบที่ใช้ความแข็งแรง เช่น เวทเทรนนิ่ง
อาจต้องมีการตรวจเช็คมวลกระดูกเพื่อเลือกประเภทการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับความแข็งแรงของกระดูกมากที่สุด