“ไอ” มานานทำไมไม่หายสักที คำถามนี้หมอมีคำตอบ

“ไอ” มานานทำไมไม่หายสักที คำถามนี้หมอมีคำตอบ

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร มีอาการไออยู่ตลอด ทำยังไงก็ไม่หายสักที!!

หลายครั้งที่การไอกลายเป็นความเคยชิน ทำให้หลายคนเกิดความชะล่าใจไม่เข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทาง ทำให้อาการทรุดหนักลงกว่าเดิมหรือนำไปสู่โรคอื่นๆ ตามมา นพ. วินัย โบเวจา อายุรแพทย์ คลินิกอายุรกรรมโรคปอด โรงพยาบาลพญาไท 3 จะมาไขคำตอบให้เราได้ทราบกัน…

 

Q: คุณหมอครับ ผมไอมา 2 เดือน กินยาก็เยอะ ทำไมไม่หายสักที

นพ.วินัย โบเวจา : สำหรับปัญหาอาการไอนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นของแพทย์ คือ ต้องทราบประวัติอาการป่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น

  • ลักษณะอาการไอ ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ
  • ไอเวลาใด กลางวันหรือกลางคืนมากกว่า นอนหลับแล้วลุกมาไอหรือไม่ เช้ามืดไอหรือไม่
  • ไอแล้วมีเสียงวี๊ดหรือไม่
  • เคยไอเป็นเลือดหรือไม่
  • มีอาการคัดจมูกร่วมด้วยหรือไม่
  • ระยะเวลาที่ไอ ก่อนการไอเคยป่วยเป็นไข้หวัดมาก่อนหรือไม่

คำถามต่างๆ ที่แพทย์ถามเป็นสิ่งจำเป็น คนไข้จะต้องตอบอย่างชัดเจน เพราะจะเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์โรคได้ในเบื้องต้น ดังนั้นถ้าแพทย์ถามอย่างละเอียดอย่าเพิ่งเบื่อนะครับ

 

Q: ทราบว่าถ้าไอนานๆ จะเรียกไอเรื้อรังใช่ไหมครับ

นพ.วินัย โบเวจา : ใช่ครับ ไอเรื้อรัง หมายถึง ไอติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์ ภาวะไอเรื้อรัง มีสาเหตุหลากหลาย อาจเกิดจากภาวะติดเชื้อ หรือภาวะที่ไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อ เช่น ภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบ หอบหืด เป็นต้น บางกรณีภาวะไอเรื้อรังอาจเกิดจากโรคอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ เช่น กรดไหลย้อน ภาวะหัวใจวาย เป็นต้น ดังนั้นการหาสาเหตุของไอเรื้อรังอาจไม่ได้คำตอบในการพบแพทย์ครั้งแรก การวางแผนการวินิจฉัย และติดตามการรักษา ต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

 

Q: สาเหตุของอาการไอเรื้อรังมีหลายอย่างเลยหรอครับ

นพ.วินัย โบเวจา : ใช่ครับ เกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุที่พบบ่อยๆ เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ การติดเชื้อในหลอดลม วัณโรค ถุงลมโป่งพอง หอบหืด กรดไหลย้อน และอื่นๆ อีกมากมาย

 

Q: การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็นใช่ไหมครับ

นพ.วินัย โบเวจา : การรักษานอกจากจะรักษาตามสาเหตุของโรคแล้ว ยังต้องรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นควบคู่กัน และนอกจากการซักประวัติ ตรวจร่างกายเบื้องต้นเพื่อวินิจฉัยโรคแล้ว บางรายอาจต้องส่งตรวจยืนยันตามความเหมาะสม อาทิ ตรวจดูโพรงจมูก ลำคอ เอกซเรย์โพรงไซนัส เพื่อดูกลุ่มอาการไซนัส ส่งตรวจเอกซเรย์ปอด เพื่อดูความผิดปกติของปอด ตรวจเสมหะ ตรวจสมรรถภาพปอด เพื่อดูโอกาสของหอบหืด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก กรณีที่ตรวจพบความผิดปรกติจาก X-ray ปอด อาจต้องทำการส่องกล้องทางเดินหายใจ (Fiber Oph bronchoscopy) เพื่อยืนยันการวินิจฉัย

 

Q: ลักษณะอาการไอเช่นไรควรพบแพทย์

นพ.วินัย โบเวจา : หลักง่ายๆ เมื่อคุณมีอาการไอและควรมาพบแพทย์ ได้แก่

  • ไอเป็นเวลานานรู้สึกว่าไม่หายสักที (มากกว่า 2 อาทิตย์)
  • ไอมีเลือดปนเสมหะ
  • เคยสัมผัสกับผู้ป่วยวัณโรค
  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต หัวใจ เมื่อมีอาการไอควรรีบมาพบแพทย์
  • รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน

 

Q: วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการไอ

นพ.วินัย โบเวจา : สิ่งแรกเลย คือ ดื่มน้ำมากๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ร่างกายได้พักอย่างแท้จริง รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการไอ


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...