เข้าใจ “โรคนอนไม่หลับ” อาการหนักแบบไหนควรปรึกษาแพทย์

พญาไท 3

1 นาที

จ. 30/03/2020

แชร์


Loading...
เข้าใจ “โรคนอนไม่หลับ” อาการหนักแบบไหนควรปรึกษาแพทย์

น้อง ‘นอนไม่หลับ’ หัวใจมันกระสับกระส่าย… หลายคนที่ได้ยินเพลงนี้อาจจะอยากลุกขึ้นมาเต้นขยับร่างกาย แต่สำหรับผู้ที่ประสบกับภาวะนอนไม่หลับนี้จริงๆ น่าจะไม่สนุกเหมือนในเพลงเป็นแน่  วันนี้หมอจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ ‘โรคนอนไม่หลับ’ ฉบับย่อ เพียง 5 ข้อก็เข้าได้ใจได้ กันค่ะ

 

1. สาเหตุของการนอนไม่หลับ เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

  • ทางด้านจิตใจ พบว่าความเครียดหรือความวิตกกังวลเป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับมากที่สุด
  • ทางด้านร่างกาย เช่น มีความเจ็บปวดทางกาย หากอยู่ในวัยหมดประจำเดือน การนอนไม่หลับจะเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือการมีโรค เช่น โรคกรดไหลย้อน (GERD), โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกลั้น (OSA), โรคขากระตุกขณะหลับ (PLMD) และโรคขาอยู่ไม่สุข (RLS) ซึ่งพบได้ในคนทั่วไปและในผู้สูงอายุ
  • ภาวะอื่นๆ เช่น ร่างกายขับคาเฟอีนออกได้ช้า ออกกำลังกายหนักมากเกินไป ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด และสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการนอนหลับ เช่น มีแสงหรือเสียงรบกวน อุณหภูมิร้อนไปหรือหนาวไป

 

2. โรคนอนไม่หลับมีกี่รูปแบบ ?

  • นอนหลับยากในช่วงเริ่มต้น เมื่อหัวถึงหมอนแล้วใช้เวลามากกว่า 20 นาทีกว่าจะหลับ
  • ตื่นกลางดึกแล้วหลับต่อยาก เช่น เริ่มต้นนอนหลับง่าย แต่เมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกหรือลุกเข้าห้องน้ำแล้วจะหลับต่อได้ยาก
  • หลับได้ไม่นาน คือ หลับได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ 2-3ชั่วโมง และตื่นเป็นระยะๆ

 

3. โรคนอนไม่หลับส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ?

  • เสี่ยงภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
  • ภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ป่วยง่าย
  • ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
  • ความจำแย่ลง
  • ความดันโลหิตสูง
  • ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวนง่าย
  • ผิวหนังไม่แข็งแรง หย่อนคล้อย แลดูแก่ก่อนวัย
  • ผื่นผิวหนังอักเสบ
  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

 

4. วิธีแก้อาการนอนไม่หลับด้วยตนเองเบื้องต้น ?

  • กำจัดความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย อันเป็นสาเหตุหลักของภาวะนอนไม่หลับ
  • อาหารมื้อเย็นควรหลีกเลี่ยงชนิดที่ย่อยยากในปริมาณมาก เช่น เนื้อสัตว์ อาหารรสจัด
  • ก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง งดใช้อุปกรณ์ที่มีแสงสว่าง เช่น ดูทีวี เล่นมือถือ ใช้คอมพิวเตอร์
  • เตรียมตัวก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง โดยเน้นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือหรือนิตยสารเพลินๆ ฟังเพลงบรรเลง สวดมนต์ นั่งสมาธิ นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์
  • หากมีอาการหิวก่อนเข้านอน ไม่ควรอด แนะนำให้ดื่มนมอุ่นๆ อาจกินกล้วยครึ่งลูก หรือขนมปังครึ่งแผ่นเพียงเพื่อให้หายหิว
  • จัดสภาพแวดล้อมการนอนให้เหมาะสม ที่นอนและหมอนควรทำความสะอาดอยู่เสมอ ปรับอุณหภูมิที่ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป เสียงเงียบ ไม่มีสิ่งรบกวน เช่น เสียงแอร์ดัง เสียงนาฬิกาเดิน เสียงสัตว์ร้อง แสงควรมืดสนิทหรือใช้ผ้าคาดปิดตาช่วย
  • หากนอนไม่หลับเกินกว่า 30-60 นาที ควรลุกออกจากเตียงสักพัก แล้วค่อยกลับมาเตรียมนอนอีกครั้งเมื่อรู้สึกเริ่มง่วง
  • ฝึกนิสัยการเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน พยายามโดนแสงแดดอ่อนๆ ในเวลากลางวัน
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมอื่นๆ บนเตียง เพื่อสร้างความเคยชินให้กับร่างกายได้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อล้มตัวลงบนที่นอน เช่น การรับประทานขนม การดูทีวี เล่นมือถือ ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค หรือคุยโทรศัพท์บนเตียง เป็นต้น
  • หากนอนไม่หลับอันเนื่องมาจากการเดินทางเปลี่ยนสถานที่ หรือไปต่างประเทศ (Jet Lag) สามารถรับประทานเมลาโทนินเพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นได้

 

5. นอนไม่หลับแบบไหนถึงควรพบแพทย์เพื่อบำบัดรักษา ?

เมื่อนอนไม่หลับมากกว่า 3 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน หรือ ภาวะนอนไม่หลับนี้ส่งผลต่อสุขภาพ กิจวัตรประจำวันและการทำงาน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง จะได้รีบรักษาก่อนอาการจะลุกลามเรื้อรังจนส่งผลเสียมากกว่าที่คิด


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...
Loading...