โรคเบาหวาน คือ โรคที่เกิดจากฮอร์โมนอินซูลินของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดให้เข้าสู่เซลล์ต่างๆของร่างกายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงาน เมื่อเซลล์ไม่ได้รับน้ำตาลในระดับที่จำเป็นก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดปริมาณน้ำตาลตกค้างอยู่ในเส้นเลือดแดงซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้อวัยวะส่วนต่างๆเสื่อมถอยลง ส่งผลให้เกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนของอวัยวะต่าง ๆ ได้

ความกลัวที่มักพบได้บ่อยในหมู่ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานคือ เมื่อเกิดแผลที่เท้าหรือขาก็จะทำให้ต้องถูกตัดขาทิ้งไป สาเหตุหนึ่งที่เกิดความกลัวเช่นนี้ เพราะผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดแผลที่เท้าได้ง่ายก็มีสาเหตุมาจากเส้นประสาทส่วนที่อยู่ปลายเท้าเกิดอาการเสื่อมสภาพ เมื่อเกิดบาดแผลผู้ป่วยจะไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ จึงมีโอกาสที่จะเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ได้ง่าย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการขับเหงื่อของร่างกาย ทำให้ผิวแตกเกิดเป็นแผลได้ง่าย หลอดเลือดส่วนปลายที่ส่งเลือดไปยังปลายเท้าเกิดการตีบตัน เสื่อมสภาพเนื่องจากภาวะน้ำตาลในหลอดเลือดเกิดภาวะเนื้อตายได้ง่าย ทำให้เมื่อเกิดบาดแผลใดก็ตามบาดแผลนั้นก็จะหายยากขึ้น และภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูงยังส่งผลให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ไม่ดี ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จึงติดเชื้อได้ง่าย

วันนี้มีโอกาสได้รับคำแนะนำเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการตัดขาเนื่องด้วยโรคเบาหวานกับ พญ.ศศิภัสช์ ช้อนทอง อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ โดย พญ.ศศิภัสช์ ช้อนทอง ได้แนะนำว่า “ถึงแม้เบาหวานจะเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ก็จริง แต่หากผู้ป่วยรู้จักดูแลรักษาตัวเองความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้ก็จะลดน้อยลง โดยการดูแลตนเองของผู้ป่วยเริ่มตั้งแต่การควบคุมดูแลระดับน้ำตาลในเลือดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดูแลรักษาความสะอาดของเท้าและดูแลสุขภาพเท้าเสมอ ตรวจสภาพเท้าของตนเองทุกวันเพื่อหารอยของโรคหรือรอยแผลที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เลือกรองเท้าที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ควรบีบหรือรัดเท้าแน่นเกินไป ทาครีมเพื่อบรรเทาอาการแห้งของผิวหนัง สวมถุงเท้าก่อนใส่รองเท้าทุกครั้งถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรแช่เท้าในน้ำร้อนเกินไป เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวแห้งตัดเล็บในขณะที่ผิวเปียกเพราะเล็บจะอ่อนนิ่ม และควรดูแลเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งการงดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด”

นอกจากนี้ พญ.ศศิภัสช์ ช้อนทอง ยังแนะนำเกี่ยวกับ ศูนย์ DVIT ต่อการรักษาโรคเบาหวานไว้ว่า “แม้ว่าการเกิดแผลที่เท้าจะเสี่ยงต่อการถูกตัดเท้าได้ง่ายกว่าคนทั่วไป แต่หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจากศูนย์การแพทย์เฉพาะทางสำหรับคนเป็นเบาหวานอย่าง ศูนย์ DVIT ที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัยอาการของโรคและบาดแผล การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและตรงจุด รวมถึงการให้ยาตามความจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลของผู้ป่วยให้หายเร็วยิ่งขึ้นและลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ก็จะเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษากับ ศูนย์ DVIT จะไม่ต้องกังวลกับการถูกตัดขาเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้นั่นเอง”

เป็นเบาหวานไม่ต้องถูกตัดขาเสมอไป