พ่อแม่ต้องสังเกต! ลูกอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว อาจเสี่ยงโรคไบโพล่าร์

พญาไท 2

1 นาที

ศ. 27/03/2020

แชร์


Loading...
พ่อแม่ต้องสังเกต! ลูกอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว อาจเสี่ยงโรคไบโพล่าร์

“ไบโพล่าร์” ปัญหาด้านจิตเวชที่พบว่า…ไม่เพียงแค่วัยผู้ใหญ่เท่านั้นที่มีความเสี่ยง แต่เด็กก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นไบโพล่าร์ได้เช่นกัน ดังนั้น พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรรู้จักสังเกตความผิดปกติของเด็ก เพื่อรีบรักษา..ก่อนเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น

อาการไบโพล่าร์ในเด็ก…ต่างจากวัยผู้ใหญ่นะ

ในผู้ใหญ่ที่ตกอยู่ในภาวะไบโพล่าร์มักจะแสดงอาการ เช่น อารมณ์ดีผิดปกติ คึกคักผิดปกติ มีความมั่นใจในตนเองสูง หรือมีความคิดในการทำโครงการที่ดูยิ่งใหญ่เกินไป มีอารมณ์ทางเพศสูง ไม่อยากนอน นอนน้อยแต่ไม่อ่อนเพลีย

แตกต่างกับอาการไบโพล่าร์ในเด็กที่จะมีอาการไม่ชัดเจนมาก คือ จะมีอาการหงุดหงิดผิดปกติ อารมณ์รุนแรง มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น พูดมากขึ้น เหมือนมีเรื่องอยากทำมากขึ้นหลายอย่าง และจะแตกต่างจากโรคสมาธิสั้น เพราะไบโพล่าร์จะมีอาการเป็นช่วงๆ เท่านั้น เช่น อาการเกิดขึ้นอยู่  4 วันหรือ 1 อาทิตย์ เป็นต้น สำหรับเด็กที่เป็นไบโพล่าร์ที่ระดับอาการยังไม่รุนแรงนั้น พ่อแม่อาจสังเกตได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม การเรียนรู้ หรือการทำงาน การเรียนไม่ดีในช่วงเวลาหนึ่ง ส่วนในเด็กที่มีอาการรุนแรง สามารถสังเกตได้จากอาการหลงผิด ก้าวร้าว หูแว่ว หรือเห็นภาพหลอน

สาเหตุที่ทำให้เด็ก..ป่วยเป็น “ไบโพล่าร์”

  1. พันธุกรรมจากการมีคนในครอบครัวเป็นโรคไบโพล่าร์ เด็กมักมีโอกาสเป็นไบโพล่าร์ได้สูงขึ้น โดยถ้าพ่อและแม่เป็นไบโพล่าร์จะทำให้เด็กมีโอกาสเป็นไบโพล่าร์ 75% หรือถ้าพ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่งเป็นไบโพล่าร์จะทำให้เด็กมีโอกาสเป็นไบโพล่าร์ 25%
  2. ความผิดปกติทางระบบสมองทำงานไม่สมดุล
  3. สภาพแวดล้อมของครอบครัว ความสูญเสียคนในครอบครัว อารมณ์ซึมเศร้าที่เกิดขึ้น

แนวทางการรักษาไบโพล่าร์ในเด็ก

  1. การใช้ยา  เมื่ออาการดีขึ้น จะพิจารณาการปรับในเรื่องการดูแลในครอบครัว โดยจะให้ยารักษาระยะเฉียบพลันเพื่อช่วยควบคุมอารมณ์ และยาช่วยรักษาอาการประสาทหลอน หูแว่ว ซึ่งจะต้องให้ยาต่อเนื่อง 1- 2 ปี และใน 2 ปีแรกเด็กสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ 50% ซึ่งบางรายที่กลับมาเป็นซ้ำต้องให้ยาต่อเนื่องนานขึ้น หรือทานยาไปตลอด
  2. การให้คำแนะนำกับครอบครัว ให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้อาการกำเริบ เช่น ความขัดแย้งในครอบครัว
  3. การปรับมุมมอง ความคิด เพื่อให้เด็กลดความกังวลหรือความเศร้า ลง
  4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมกระตุ้น เช่น การใช้เหล้า สารเสพติด การอดนอน เพราะจะทำให้อาการกำเริบได้

 

พญ. ชนม์นิภา แก้วพูลศรี
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชศาสตร์สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...