พ่อแม่ควรรู้! เมื่อไหร่ที่เด็กจำเป็นต้องได้รับการตรวจตา

พญาไท 2

1 นาที

พ. 20/05/2020

แชร์


Loading...
พ่อแม่ควรรู้! เมื่อไหร่ที่เด็กจำเป็นต้องได้รับการตรวจตา

ในการเลี้ยงดูเด็กคนนึง ไม่ใช่แค่โรคฮิตในเด็กที่พ่อแม่ต้องคอยเฝ้าระวัง แต่ยังมีพ่อแม่บางรายที่เพิ่งมารู้ว่าลูกตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา…ในวันที่เกือบสายเกินแก้ไข เพราะลูกน้อยไม่ได้รับการตรวจดวงตาตามหลักเกณฑ์ที่ควรจะเป็น แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ?  ที่พ่อแม่ควรพาลูกรักไปพบจักษุแพทย์ นี่คือคำตอบ…

การตรวจดวงตาในเด็ก แบ่งออกเป็น 3 ช่วงวัย ดังนี้

ช่วงอายุ 0 – 2 ปี (Infant and toddler)

  • ทารกคลอดก่อนกำหนด  ตรวจหลังคลอดได้ 4-6 สัปดาห์  และเมื่ออายุครบ 3 เดือน ( หลังคลอด ) หากปกติ ตรวจตอนอายุ 1 ปี
  • ทารกคลอดครบกำหนด อายุ 3 เดือน ยังไม่มองสบตา หรือมองหน้าพ่อ แม่
  • เด็กมีอาการน้ำตาเอ่อล้นเป็นประจำที่ให้การรักษาโดยการนวดหัวตา แล้วไม่ดีขึ้น ( มีแนวโน้มเป็นท่อน้ำตาตันหรือ โรคต้อหินในเด็ก )
  • หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง แม้ไม่บดบังการมองเห็นแต่อาจเป็นสาเหตุของ lazy eye ในอนาคต
  • เด็กกลุ่มพัฒนาการผิดปกติ ควรได้รับการตรวจการมองเห็นว่าผิดปกติด้วยหรือไม่
  • ทารกกลุ่ม Down ‘syndrome ( มักพบต้อกระจกและสายตาผิดปกติ )
  • เด็กที่มีความผิดปกติของ hormone ในส่วน pituitary ( มักพบภาวะ Optic nerve hypoplasia )
  • เด็กที่พบภาวะตาสั่น
  • เด็กที่มี cornea โตกว่าปกติ ข้างเดียวหรือสองข้าง (พบความเสี่ยง congenital Glaucoma) โดยเฉพาะมีอาการแพ้แสงหรือน้ำตาไหลเป็นประจำร่วมด้วย

ช่วงอายุ 2-5 ปี (Pre-school age) ตรวจเมื่อพบอาการหรือมีข้อบ่งชี้ ดังนี้

  • ตาเข
  • กระพริบตาบ่อย ๆ ผิดปกติ
  • มีอาการเอียงหน้าเวลามอง
  • ประวัติครอบครัวที่มีความผิดปกติทางสายตา
  • เด็กกลุ่ม Learning Disability (วิเคราะห์ระดับการมองเห็น  ว่าเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะ LD หรือไม่)

ช่วงอายุ 5 ปีขึ้นไป (School Child) ตรวจเมื่อพบอาการหรือมีข้อบ่งชี้ดังนี้

  • ปวดศีรษะเป็นประจำ ตรวจหาสาเหตุอื่นไม่พบ
  • หยีตาเวลามอง หรือต้องดูโทรทัศน์ใกล้ ๆ
  • ตาเข ตาเหล่ หรือมีประวัติพี่น้องเป็นตาเข
  • ตรวจตาเพื่อหาความผิดปกติทุกรายก่อนเข้าโรงเรียน กรณีพบสาเหตุนำสู่ภาวะตาขี้เกียจต้องรักษาก่อนอายุ 9 ปี (หากตรวจช้ากว่านี้อาจไม่ได้ผลการรักษาที่ดี)

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...