10 ข้อที่ผู้หญิงควรรู้เพื่อการใช้ยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี

10 ข้อที่ผู้หญิงควรรู้เพื่อการใช้ยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี

การมีความรู้เรื่องการคุมกำเนิดถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับสาวๆ ยุคใหม่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร หรืออยู่ในวัยใดก็ตาม นอกจากการคุมกำเนิดจะสามารถป้องกันปัญหาการท้องก่อนวัยอันควร ยังช่วยให้คู่สมรสที่ยังไม่พร้อมมีบุตรวางแผนครอบครัวได้อีกด้วย

 

หากพูดถึงวิธีคุมกำเนิดที่นิยมมากที่สุดคงไม่พ้นการการรับประทานยาชนิดเม็ด เพราะนอกจากจะกินง่ายแล้วยังราคาไม่แพงอีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีใดก็ตาม เราควรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และนี่คือ…

 

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดที่คุณหมออยากบอก…

 

  1. ยาคุมกำเนิดแบบเม็ด (Birth Control Pill) เป็นยาที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่มีความสำคัญต่อการป้องกันการตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงจนตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมกับไข่และอสุจิไม่สามารถฝังตัวได้ และยังช่วยทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกมีความเหนียวข้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้อสุจิไม่สามารถเข้ามาผสมกับไข่เพื่อปฏิสนธิได้
  2. ยาคุมกำเนิดแบบเม็ดแบ่งตามชนิดฮอร์โมนได้ 2 ประเภท คือ ฮอร์โมนเดี่ยวและฮอร์โมนรวม ประเภทฮอร์โมนเดี่ยว มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว มีฤทธิ์คุมกำเนิดสูง ส่วนประเภทฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในปริมาณและชนิดที่ต่างกัน ยิ่งปริมาณของฮอร์โมนมากยิ่งคุมกำเนิดได้ดี แต่ผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้ามีปริมาณของฮอร์โมนน้อย การคุมกำเนิดก็น้อยลงและมีผลข้างเคียงน้อยกว่าด้วยเช่นกัน
  3. นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งประเภทตามจำนวนเม็ดได้อีกเช่นกัน คือ แบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด โดยแบบ 21 เม็ดจะต้องกินแล้วเว้นไป 7 วันจึงจะสามาระเริ่มแผงใหม่ได้ ส่วนแบบ 28 เม็ด จะมีตัวยาจริงเพียง 21 เม็ด และมีเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด เหมาะสำหรับคนที่กลัวจะนับวันผิด จึงควรกินต่อกันจนหมดแผงได้เลย แต่ไม่ว่าจะกินแบบใดก็ได้ผลในการคุมกำเนิดเท่ากัน
  4. ยาคุมกำเนิดที่วางขายในปัจจุบันต่างกันแค่ชนิดของฮอร์โมน เจเนเรชั่นของฮอร์โมน และปริมาณของฮอร์โมน ผู้ใช้ยาจึงควรเลือกจากประเภทฮอร์โมนที่ต้องการก่อนที่จะเลือกยี่ห้อ เพราะตัวยาในแต่ละเจเนเรชั่นจะมีการพัฒนาให้มีผลข้างเคียงลดลง และเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดให้มากขึ้น เช่น  ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนบางตัวจะมีฤทธิ์ต่อต้านแอนโดรเจน ช่วยให้ผิวสวยขึ้น ลดสิวได้ด้วย
  5. ยาคุมกำเนิดมีผลข้างเคียง ดังนี้ คลื่นไส้อาเจียน, มีเลือดออกผิดปกติ, อารมณ์แปรปรวน และมีหลอดเลือดอุดตัน อาการนี้มักจะเกิดในคนที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป หรือในคนที่สูบบุหรี่ ฉะนั้นแพทย์จะไม่แนะนำให้คนอายุมากกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
  6. การกินยาคุมกำเนิดจะต้องกินเวลาเดิมทุกวัน หากลืมกินยาจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง และหากลืมกินยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 ชั่วโมง ให้กินทันทีที่นึกขึ้นได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม
  7. การกินยาคุมกำเนิดแผงแรกหรือกินหลังจากไม่ได้กินมานาน ให้กินภายใน 5 วันแรกของการเป็นประจำเดือน หรือกินในขณะที่ยังมีประจำเดือนอยู่ ถ้าหากรู้ตัวว่ามีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์ควรกินยาคุมกำเนิดไว้ในระหว่างรอบเดือนเพื่อป้องกันไว้ล่วงหน้า
  8. วิธีกินยาคุมกำเนิดให้ดูวันที่ตามจริงและวันที่บนแผง โดยบนแผงยาจะระบุวันไว้ตั้งแต่วันจันทร์-อาทิตย์ หากวันที่จะเริ่มกินยาเม็ดแรกเป็นวันพุธก็ให้แกะยาเม็ดแรกของวันพุธมากิน แล้วกินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแผง
  9. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ในกรณีถูกข่มขืน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ตั้งใจ ในแผงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมี 2 เม็ด เม็ดแรกให้กินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่ 2 ให้กินหลังจากนั้น 12 ชั่วโมง ซึ่งยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นประสิทธิภาพต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดแผง
  10. ควรดูวันหมดอายุก่อนใช้ยา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...