ปวดประจำเดือน ปวดท้องน้อย ฟังดูแล้วก็เหมือนเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้หญิงเจอกันบ่อยๆ เป็นประจำทุกเดือน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่มักถูกมองว่าปกตินี้… อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” ได้เหมือนกัน เอ๊ะ! แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอาการที่เป็นอยู่คือเรื่องปกติหรือผิดปกติกันแน่ บทความนี้มีคำตอบ…
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Adenomyosis) คืออะไร?
เป็นความผิดปกติของเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตนอกโพรงมดลูก! ซึ่งอาจแทรกตัวอยู่ในผนังหรือกล้ามเนื้อมดลูก หรือในตำแหน่งอื่นๆ ในอุ้งเชิงกราน เช่น รังไข่ หรือกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด และช่องเยื่อหุ้มปอด แต่ตำแหน่งที่มักพบความผิดปกติของภาวะนี้ได้บ่อย คือ..
- รังไข่ ซึ่งการที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ที่รังไข่นั้น เมื่อเวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือนก็จะทำให้ประจำเดือนไหลย้อนกลับ และถุงน้ำจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณของประจำเดือนที่สะสมเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบเดือน โดยของเหลวภายในจะมีลักษณะเหนียวข้นคล้ายช็อกโกแลต จึงมักเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst)
- กล้ามเนื้อมดลูก กรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกแทรกตัวเข้าไปในกล้ามเนื้อของผนังมดลูก ก็ทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือน เกิดความดันในช่องท้องส่วนล่าง และท้องป่องในช่วงก่อนมีประจำเดือน และอาจส่งผลให้มีอาการในช่วงที่ประจำเดือนมามาก ซึ่งภาวะนี้สามารถเกิดได้ 2 แบบ คือ เกิดเฉพาะที่ชั้นกล้ามเนื้อมดลูก และเกิดกระจายในชั้นกล้ามเนื้อมดลูกทั่วไป
เช็คลิสต์หน่อย! ที่เป็นอยู่ ใช่อาการ “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” หรือเปล่า
- ประจำเดือนมามากและยาวนาน คือ มามากกว่า 7 วัน และในระหว่างวันต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ ชั่วโมง
- ปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง คือ เดิมเคยปวดประจำเดือนอยู่แล้ว… และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกเดือน หรืออาจปวดมากจนเป็นลม
- ปวดเจ็บที่ช่องคลอดขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อย… ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังมีประจำเดือน
- เกิดแรงดันในช่องท้อง ท้องป่องช่วงมีประจำเดือน
- มีภาวะโลหิตจาง
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เป็นภาวะที่พบบ่อย มักพบมากในผู้หญิงวัยกลางคน และหญิงที่เคยมีบุตรแล้ว มีผลงานวิจัยบางชิ้นได้กล่าวไว้ว่า… หญิงที่เคยผ่าตัดมดลูกมาก่อนอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้ แต่ก็ยังไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัดว่าภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เกิดจากอะไร เพียงแต่มีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นบ่งชี้ว่า ฮอร์โมนหลายชนิด เช่น Estrogen, Progesterone, Prolactin และ Follicle Stimulating Hormone ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้
มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือไม่? รู้ได้ด้วยการตรวจนี้
- ซักประวัติโดนสูติ-นรีแพทย์อย่างละเอียด
- ตรวจภายในและตรวจในห้องปฏิบัติการ
- ตรวจอัลตร้าซาวนด์ เพื่อให้สูติ-นรีแพทย์สามารถเห็นรอยโรคได้ชัดเจนขึ้น
ตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ช่วยค้นหารอยโรคได้แม่นยำกว่า
ในกรณีที่ตรวจด้วยวิธีอื่นแล้วไม่สามารถค้นหารอยโรคได้ชัดเจน การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI เป็นเทคโนโลยีสร้างภาพทางการแพทย์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างในกรณีที่ผู้ป่วยหญิงมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ลักษณะอาการจะคล้ายคลึงกันมากกับโรคเนื้องอกในมดลูก แต่การทำ MRI จะช่วยให้แพทย์เห็นความแตกต่างของรอยโรค คือ ถ้าเป็นเนื้องอกนั้น… มวลของเนื้อเยื่อจะติดกับผนังมดลูก แต่หากเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จะเป็นการเจริญเติบโตภายในผนังมดลูก ทำให้การวินิจฉัยโรคมีความแม่นยำ และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แพทย์เลือกวิธีรักษาได้อย่างถูกต้องตรงจุด
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รักษาได้หรือไม่?
ในการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยสูติ-นรีแพทย์จะพิจารณาจากอาการ ความรุนแรง และประวัติของผู้ป่วยว่าเคยคลอดลูกหรือไม่ โดยแนวทางการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ..
- การใช้ยา ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงน้อยถึงปานกลาง ซึ่งยาที่ใช้ในการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธ์ต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (nonsteroidal anti-inflammatory drugs – NSAIDs) เพื่อลดอาการปวดประจำเดือน โดยแพทย์มักเริ่มให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ (NSAIDs) นี้ ใน 1-2 วันก่อนเริ่มมีประจำเดือน และใช้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงวันแรกๆ ของการมีประจำเดือน
- ยาฮอร์โมน โดยมีทั้งแบบยากิน ยาฉีด และห่วงฮอร์โมนสำหรับใส่ในโพรงมดลูก ซึ่งยากลุ่มฮอร์โมนจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของรังไข่ ทำให้รอยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เกิดการฝ่อ
- การผ่าตัด ในกรณีที่การรักษาโดยการใช้ยาให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือผู้ป่วยมีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถรักษาโดยการใช้ยาได้ การผ่าตัดจะเป็นทางเลือกต่อมา ซึ่งการผ่าตัดจะช่วยให้แพทย์สามารถตัดรอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ออกได้หมดหรือตัดออกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยปัจจุบันมีการผ่าตัดส่องกล้องซึ่งวิธีการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีข้อดีมากมาย เช่น ช่วยลดโอกาสเกิดพังผืดหลังการผ่าตัดได้ดีขึ้น แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ใช้เวลานอนโรงพยาบาลน้อยวันกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องในสมัยก่อน
แม้ว่า… ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่การปวดเรื้อรังร่วมกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อมีประจำเดือนในแต่ละรอบเดือนก็ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของผู้หญิง และหากปล่อยไว้ก็อาจลุกลาม จึงควรเข้ารับการตรวจและรักษาให้หายจะดีกว่า