สถานการณ์โรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคที่เกี่ยวกับปอดในบ้านเรานับวันจะยิ่งทวีความรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมและมลพิษที่เป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จนกลายเป็นความวิตกกังวล เมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วเอกซเรย์พบว่า “มีก้อนในปอด”
โดยส่วนใหญ่เรามักตระหนกไปกันก่อนเองว่า หรือจะเป็นมะเร็งปอด ทั้งที่จริงๆ แล้ว “ก้อนในปอด” นั้น เป็นได้หลายอย่าง หรืออาจไม่ได้เป็นอะไรเลยก็ได้ คือร่างกายเป็นปกติดี ทั้งนี้เพื่อเป็นการไขความกระจ่าง และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องก้อนในปอดให้มากขึ้น นพ.วินัย โบเวจา อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นก้อนในปอดไว้อย่างน่าสนใจมาก ดังต่อไปนี้
ก้อนในปอดไม่ใช่มะเร็งเสมอไป อย่าทำร้ายหัวใจด้วยการคิดไปเองก่อน
คนส่วนใหญ่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยมักจะกลัวว่า “ก้อน” คือมะเร็ง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เราต้องแก้ความคิดอันนี้ก่อน เพราะก้อนมันไม่ใช่มะเร็งเสมอไป ก้อนคือเนื้อ เนื้อมีตั้งแต่เนื้อร้ายและเนื้อดี เนื้อร้ายก็คือมะเร็ง เนื้อดีก็คือเป็นก้อนเป็นติ่ง ริดสีดวง อะไรก็ว่ากันไปที่ไม่ใช่มะเร็ง ทั้งนี้ก้อนที่ไม่ใช่มะเร็งอาจมีได้ตั้งแต่ก้อนที่เกิดจากการ “ติดเชื้อ” คือเป็นวัณโรคหรือเปล่า สองคือเชื้อราหรือเปล่า สามอาจเป็นแบคทีเรียธรรมดา หรือสี่เป็นการกระตุ้นของพยาธิหรือเปล่า เหล่านี้คือกลุ่มติดเชื้อ
ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้ติดเชื้อ ก็จะเป็นการอักเสบของร่างกาย อักเสบอันแรกก็คือเป็นแผลเป็นเก่า เช่น คนไข้อาจเคยติดเชื้อที่ปอดมาก่อน หรืออาจจะเคยประสบอุบัติเหตุแล้วเกิดเป็นแผลเป็นเหมือนตามผิวหนังเรา แผลเป็นพอเวลาผ่านไปก็จะรวมตัวกันเป็นก้อน ซึ่งพอหดตัวก็ทำให้เอกซเรย์แล้วเห็นเหมือนเป็นก้อนได้ ส่วนอักเสบอย่างที่ 2 คือ การอักเสบจริง เป็นการอักเสบของร่างกายที่ภูมิต้านทานหันมาเล่นงานร่างกายเราเอง โดยเวลาเกิดการอักเสบปุ๊บก็จะเกิดแผล แล้วแผลก็อาจจะทำให้เอกซเรย์ออกมาแล้วเห็นเหมือนเป็นก้อนได้
สูดหายใจเอาอะไรเข้าไป ก็อาจทำให้เห็นเป็นก้อนในปอดได้
นอกเหนือจากการติดเชื้อ และการอักเสบแล้ว ก็ยังมีกรณีอื่นที่ทำให้เอกซเรย์ปอดแล้วเห็นเป็นก้อนได้ คือก้อนนั้นมันอาจเป็นติ่งจากสิ่งแปลกปลอมที่เราสูดหายใจเข้าไป อย่างเช่น คนทำงานในเหมืองแร่ ในโรงงานที่ต้องมีฝุ่นละออง เขม่าหินเยอะๆ สิ่งแปลกปลอมพวกนี้วันดีคืนดีมันก็จะเกาะกลายเป็นหินปูนอยู่ในร่างกาย หรืออย่าง PM 2.5 เอง แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก ระยะสั้นอาจไม่ได้ทำให้เกิดก้อนในปอดได้ แต่ถ้าระยะยาวที่สะสมเรื้อรังมานานๆ นั้นเป็นไปได้ ซึ่งต้องเข้าใจว่าอะไรที่ผิดปกติจะเกิดขึ้นในปอดคนเราได้นั้น ไม่ใช่แค่โดนครั้งเดียวแล้วเป็นเลย แต่มันจะค่อยๆ สะสม คือเราได้รับสิ่งแปลกปลอมนั้นเป็นระยะเวลานานๆ ต่อเนื่อง ซึ่งคนที่ใช้ชีวิตประจำวันทุกวันอย่างเราๆ อยู่กับควันรถ มลพิษ สูดไปนานๆ ทุกวัน ก็มีโอกาสปอดอักเสบและเอกซเรย์เห็นเป็นก้อนในปอดได้เช่นกัน
เอกซเรย์เจอก้อนในปอดแล้วอย่าเพิ่งกูเกิล ไม่งั้นอาจเขินได้โดยไม่ทันตั้งตัว
เคยเห็นอะไรไกลๆ แล้วดูมันเหมือนเป็นก้อนไหม แต่พอเข้าไปใกล้แล้ว มันไม่ใช่เลย มันอาจเป็นอีกอย่างก็ได้ ภาพเอกซเรย์ก้อนในปอดเองก็เช่นกัน อารมณ์เดียวกัน ซึ่งเป็นไปได้ที่มันจะไม่มีอะไรผิดปกติเลย แม้จะเอกซเรย์แล้วพบเห็นเป็นก้อนในปอด เพราะก็มีเหมือนกันที่บางที Check Up มาแล้วเห็นเป็นก้อน โดยไม่มีอาการอะไรมาเลย ซึ่งในความจริงก็คือไม่มีอะไร เพราะมันอาจเป็นเงาของหัวนมบ้าง เงาของซี่โครงกระดูกบ้าง หรือกระดูกคนไข้อาจจะคด จนกลายเป็นเหมือนภาพสิ่งแปลกปลอมในปอดเราได้นั่นเอง
ดังนั้นสิ่งที่หมออยากจะบอกก็คือ ภาพจากการเอกซเรย์เป็นเพียงแค่ “ภาพ” ที่บอกกว้างๆ เพื่อนำไปสู่การตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเท่านั้น ไม่ใช่คำวินิจฉัยว่าเราเป็นอะไรจริงๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่มักตกใจและคิดไปเองก่อน เวลาผลการเอกซเรย์ออกมาแล้วพบว่ามีก้อนในปอด ดังนั้น อย่าเพิ่งตกใจ อย่าเพิ่งไปกูเกิล ปัจจุบันคนเราเวลาตกใจปุ๊บ สเต็ปสองคือไปกูเกิลเลย ซึ่งพอกูเกิลปุ๊บ ก็ไปละ หลุดเลยทีนี้ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต แต่สุดท้ายอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ ดังนั้น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปดีกว่า ยังไงเรามาตรวจสุขภาพแล้วมันก็ดีกว่าเป็นไหนๆ เพราะจะหาสาเหตุที่แท้จริงเจอได้ไว ซึ่งถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เราก็มีโอกาสรักษาหายได้มากกว่าอยู่แล้ว